ขณะเดียวกัน นายสุชาติ กล่าวถึงปัญหาเรื่องความขัดแย้งกับหัวหน้าและเลขาฯ เห็นว่าหัวหน้ากับเลขาฯนั้น เปรียบเป็นพ่อกับแม่ ลูกๆ มีร้อยกว่าคน ก็ต้องมีลูกที่มีความอึดอัดน้อยใจเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะเป็นครอบครัวใหญ่และที่ในไลน์ระบุว่าผมไม่เอาด้วยแล้ว เพราะว่าหน้าที่ต้องทำยังไม่รู้ ขออนุญาตอธิบายว่า หมายถึงตนไม่ไปคุยด้วยแล้ว เพราะทั้งหัวหน้าและเลขาฯ ก็ทำงานให้นายกรัฐมนตรีอยู่ ในส่วนการแก้ปัญหาฝ่ายรัฐบาลอยู่ เราจึงต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองจะดีกว่า และพยายามคิดในมุมที่ดีว่าส.ส.ต้องช่วยตัวเองเป็นหลักก่อน
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐที่ต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคว่า ส.ส. ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้เลย เพราะยังไม่มีการกำหนดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือกำหนดวาระการประชุม ซึ่งยังไม่เกิดขึ้น เพราะว่าทุกพรรคการเมืองอยู่ในโหมดของการแก้ปัญหาโควิด-19 ทั้งนั้น
ทั้งนี้ หากมีการประชุม พปชร. จะมีการหารือเรื่องปรับ ครม. หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจและดุลพินิจของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และตนไม่ขอก้าวล่วงในเรื่องนี้ และช่วงนี้เป็นเวลาของการแก้ปัญหาโควิด – 19 อาจจะยังไม่ควรเอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะที่ตนก็เอาเวลาทั้งหมดลงไปทำงานในพื้นที่ชลบุรี ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง และก็ยังไม่เจอและไม่ได้อยู่กับครอบครัวมาเป็นเดือนเพราะว่าต้องอยู่พื้นที่ชลบุรีร่วมกันผลักดัน ชลบุรีโมเดล เพื่อช่วยเหลือประชาชน และวันนี้ชลบุรีโมเดลอำเภอเมืองชลบุรี ก็ไม่มีคนติดเชื้อเพิ่มมา 28 วันแล้ว นี้คือสิ่งที่ตนเองและเพื่อน สส.ทุกคนในพรรคพลังประชารัฐต้องการ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้ผ่านพ้นวิกฤตชาติครั้งนี้ ไปให้ได้สมบูรณ์ ร่วมกันแบ่งเบารัฐบาล และเตรียมการเยียวยาชาวบ้านหลังจากนี้ด้วย