นายสุทิน คลังแสง ส.ส.จังหวัดมหาสารคาม และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลมีมติไม่ให้เปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญว่า ตนไม่ผิดหวังเพราะคาดไม่ผิดมาแต่ต้นว่ารัฐบาลจะต้องหนีสภาฯอยู่แล้ว แม้สมัยประชุมปกตินายกฯก็หนีการประชุมตลอด ส.ส.รัฐบาลเองก็เช่นกันชิงปิดประชุมบ้าง หนีประชุมบ้าง กดบัตรแทนกันบ้าง แต่คราวนี้ผมเสียดายโอกาสของประชาชนที่จะได้สะท้อนความทุกข์ยาก เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา ตลอดทั้งตรวจสอบการทำงานในวาระพิเศษนี้ เรื่องสำคัญต่างๆ รัฐบาลควรนำมาให้ประชาชนมีส่วนร่วมวิพากษ์ วิจารย์เสนอแนะและตรวจสอบอย่างทันการ ทันเวลาแต่กลับเดินหน้าทำไปโดยลำพัง จะนำเข้าสภาให้ตัวแทนประชาชนตรวจก็เมื่อผ่านไปแล้ว 1 เดือนเศษ คือรอสภาฯเปิดปกติ อย่างนี้เรียกว่า กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ หรือปล่อยให้อ้อยเข้าปากช้างไปแล้วก็เอาคืนยาก
ส่วนข้ออ้างที่ว่า เกรงว่าการประชุมสภาฯจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด ตนเห็นว่าเป็นการฉวยโอกาสเอาโควิดเป็นข้ออ้าง เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากฝ่ายค้านและประชาชน และหากโควิดยังทรงอยู่แบบนี้ไปอีก 1 ปี ก็จะไม่มีการประชุมสภาฯอีก1ปีใช่หรือไม่ และข้ออ้างที่ว่าแม้รายชื่อครบ เสนอประธานสภาฯ จะเปิดได้ก็เกือบปลายเดือนอยู่ นี่ก็ไร้สาระ ประธานสามารถใช้ดุลยพินิจเปิดเร็วให้ทันปัญหาได้
ส่วนคำถามจากประธานวิปรัฐบาลที่บอก ถ้าเปิดสภาแล้วเชื้อโควิดกระจายใครรับผิดชอบ เป็นการหลับตาถามกวนๆ งั้นผมขอถามกลับให้คิด คนฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีกินรัฐบาลจะรับผิดชอบหรือไม่ ถ้ากู้มามโหฬารอย่างนี้ ไม่ถาม ไม่ฟังใครอย่างนี้ รัฐบาลรับผิดชอบหนี้ก้อนหนี้หรือไม่ และการที่รัฐบาลอุ้มแต่คนรวย แล้วแบ่งเศษเนื้อให้ชาวบ้านใครรับผิดชอบ