การรายงานจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้แสดงให้เห็นถึงกรณีหากมีการระบาดของเชื้อเกิดขึ้น พบ 3 กรณี คือหากควบคุมได้ดีจะเกิดผู้ติดเชื้อ 15-30 คนต่อวัน สถานการณ์พอควบคุมได้แต่มีความเสี่ยงอาจมีการติดเชื้อ 40-70 รายต่อวัน ซี่งหากเปิดหมดและคุมไม่อยู่จะพบว่ามีผู้ป่วย 500-2,000 คนต่อวัน
ด้านการประเมิณผลการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นผลให้มีผู้ป่วยลดน้อยลง และมีผลการสำรวจประชาชน 4 หมื่นคนพบ 70% เห็นด้วยกับการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประชุมจึงมีมติให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่ออีก 1 เดือน โดยต้องใช้ 4 มาตราการ คือ ควบคุมการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักร , ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานเวลา 22:00-04:00 น. ,งดและชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด และ งดการดำเนินกิจกรรมในคนหมู่มาก
โดยแนวทางการผ่อนปรนมาตรการต้องคำนึงถึงปัจจัยของกระทรวงสาธารณสุขและยังคงต้องมีมาตราการทำงานที่บ้านต่อ ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด เว้นระยะห่าง มีการวัดอุณหภูมิ มีการล้างมือและมีเจลแอลกอฮอล์ รวมถึงการมีแอพพลิเคชั่นติดตามตัว โดยจะมีการเร่งรัดการตรวจหาเชื้อเพิ่มในกลุ่มเสี่ยง
ทั้งนี้ กรณีมีกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจจำหน่ายสุราขอเงื่อนไขการขายแบบเดลิเวอรี่ จำกัดช่วงเวลา 14:00-17:00 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่าในที่ประชุมไม่ได้มีการหารือในประเด็นดังกล่าวต้องให้กลุ่มที่ปรึกษาไปหารือกันมา ซึ่งหากมีปัญหาอะไรผ่านทางสมาคมมาก่อน
โดยมีรายงานว่าที่ประชุม ศบค. จะมีการผ่อนปรนมาตราการมีการอนุญาตให้เปิดร้านอาหาร ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า และร้านเสริมสวยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ที่จะมีการออกเป็นข้อปฏิบัติ ทั้งนี้จะมีกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล และจะมีการประเมิณสถานการณ์ทุก 14 วัน