นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อเร่งพิจารณาร่างพระราชกำหนดเกี่ยวกับการกู้เงิน และร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ นั้น ส่วนตัวเห็นด้วยกับการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพราะขณะนี้มีทั้ง พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. ที่ต้องรีบดำเนินการ เพื่อนำเงินจากส่วนต่าง ๆ มาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่การจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเป็นผู้เสนอ หรือสมาชิกทั้งสองสภาฯ เข้าชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ถ้าทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ก็เปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ หากมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ คงนำเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.ก. กู้เงินมาพิจารณาเป็นฉบับแรก ส่วนร่าง พ.ร.บ. การโอนงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ นั้น ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นจากประชาชนเรื่องผลกระทบต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 แล้วหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจน ว่า การจะเสนอกฎหมายใด ๆ เข้าสภาต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อน ส่วนระยะเวลาการพิจารณา พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. ต่าง ๆ จะใช้เวลากี่วันนั้น ยังไม่ได้หารือกัน เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ รอเปิดประชุมสภาตามปกติในวันที่ 22 พ.ค. นั้น มองว่าการดำเนินการพิจารณากฎหมายคงไม่ล่าช้า เพราะขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่นานจะเปิดประชุมสภาตามปกติแล้ว