เคทีซีรายงานการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 กำไรสุทธิ 1,641 ล้านบาท จำนวนสมาชิกบัตรเครดิตและยอดลู กหนี้ขยายตัวดี ค่าใช้จ่ายทางการเงิน และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เร่งวิเคราะห์ พัฒนาและปรับปรุ งกระบวนการในองค์กรทั้งระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และตอบสนองความต้องการที่ หลากหลายของลูกค้าให้ได้รั บความพึงพอใจมากที่สุด อีกทั้งสนับสนุนภาครั ฐออกมาตรการผ่อนผันและแบ่ งเบาภาระสมาชิกที่เดือดร้ อนจากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก เพื่อดูแลรักษาคุณภาพของพอร์ตสิ นเชื่อไว้ให้ดีที่สุดอย่างเต็ มกำลัง
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมของการดำเนินงานของเคที ซีในไตรมาสแรกถือว่าอยู่ในเกณฑ์ ดี มีการเติบโตทั้งรายได้และผลกำไร รายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ ในระดับที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันสามารถควบคุมค่าใช้ จ่ายทางการเงินและหนี้ที่ไม่ก่ อให้เกิดรายได้ให้อยู่ในระดับที่ เหมาะสม รวมถึงปริมาณการใช้จ่ายผ่านบั ตรเครดิตในช่วง 2 เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ของปี 2563 ยังมีอัตราขยายตัว 10% ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโต 6.2%”
“อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ของไวรัสสายพันธุ์ ใหม่ โควิด-19 ได้มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก จนกลายเป็นวิกฤติรุนแรงที่ส่ งผลกระทบกับธุรกิจเกือบทุ กประเภท ต่อเนื่องมาถึงชีวิตความเป็นอยู่ และภาคการใช้จ่ายของประชาชน และมีผลให้การเติบโตของพอร์ตลู กหนี้และปริมาณการใช้จ่ายผ่านบั ตรเคทีซีเริ่มได้รั บผลกระทบตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ ยงไม่ได้ เคทีซีได้ติดตามและประเมิ นผลกระทบของสถานการณ์ไวรัสโควิ ด-19 และคาดว่าสถานการณ์ และผลกระทบจะเริ่มเห็นได้ชั ดเจนในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการบังคั บใช้พระราชกำหนดการบริ หารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) แล้วอย่างเต็มที่”
“ภารกิจของเคทีซีที่เราจะต้องคิ ดวิเคราะห์ให้ถ้วนถี่ในช่ วงเวลานี้คือ การหากลยุทธ์ที่จะนำพาเคทีซีฝ่ าวิกฤตินี้ไปอย่างไรให้ได้รั บผลกระทบน้อยที่สุด และจะเตรียมพร้อมรับมืออย่างไรหลั งวิกฤติโควิด-19 เพราะโลกหลังจากนี้จะไม่เหมื อนเดิมอีกต่อไป (New Normal) อีกทั้งจะเร่งวิเคราะห์ พัฒนาปรับปรุงกระบวนงานทั้งระบบ (End to End Process Improvement) ปรับลดความซ้ำซ้อนและซับซ้อน เสริมสร้างการทำงานให้มีประสิ ทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของลูกค้ าให้ครอบคลุมทุกมิติ ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาคุ ณภาพของพอร์ตสินเชื่อทั้งบั ตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลให้ดี ที่สุด”
“บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนภาครั ฐในการออกมาตรการผ่อนผันช่ วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าที่ได้ รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามนโยบายของกระทรวงการคลั งและธนาคารแห่งประเทศไทยอย่ างเต็มที่ โดยปรับลดอัตราผ่อน
ชำระของบัตรเครดิตจากเดิม 10% เหลือ 5% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ส่วนลูกหนี้สินเชื่อบุคคล “เคทีซี พราว” (KTC PROUD) ปัจจุบันได้รับอัตราผ่อนชำระขั้ นต่ำ 3% ซึ่งอยู่ในแนวทางการให้ความช่ วยเหลือดังกล่าวอยู่แล้ วนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมจะออกมาตรการเพื่อช่ วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมใน วันที่ 20 เมษายน 2563 ที่จะถึงนี้อีกด้วย”
“สำหรับผลการดำเนินงานของบริษั ทฯ ในช่วงไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 เคทีซีมีกำไรสุทธิ 1,641 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ย (รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิ น) เท่ากับ 3,615 ล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม (NPL) 4.01% (ถ้าเป็นภายใต้ มาตรฐานการรายงานทางการเงินเดิ มจะเท่ากับ 1.21%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ และดอกเบี้ยค้างรับรวม (ยอดลูกหนี้การค้ารวม) เท่ากับ 82,102 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 3.5 ล้านบัญชี (เพิ่มขึ้น 5.6%) แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,593,947 บัตร (เพิ่มขึ้น 10.4%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บั ตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม (ยอดลูกหนี้บัตรเครดิต) 52,137 ล้านบาท ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่ากั บ 50,167 ล้านบาท เติบโต 2.2% NPL บัตรเครดิตตามมาตรฐานใหม่ TFRS 9 อยู่ที่ 3.44% พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี เท่ากับ 926,729 บัญชี (ลดลง 6.0%) จากการปิดบัญชีที่ไม่เคลื่ อนไหว เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สิ นเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรั บรวม (ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคล) 29,965 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลตามมาตรฐานใหม่ TFRS 9 อยู่ที่ 4.99%”
“นอกจากนี้ ตามมาตรฐานใหม่ TFRS 9 บริษัทฯ ยังสามารถทำรายได้รวมเท่ากับ 5,669 ล้านบาท และมีรายได้ค่าธรรมเนียมเท่ากับ 1,183 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมภาษีเงินได้) อยู่ที่ 3,631 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริ หารงาน 1,929 ล้านบาท ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่ าจะเกิดขึ้น (หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ) เท่ากับ 1,308 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงิน 394 ล้านบาท ตามลำดับ”