ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 4-8 พ.ค.อยู่ที่ 32.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ข้อมูลเงินเฟ้อไทยเดือนเม.ย. สถานการณ์ภายหลังการเปิดเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชนของ ADP และดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนเม.ย. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการเคลื่อนไหวของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในภาพรวมที่ได้รับแรงหนุนจากแผนการเตรียมกลับมาเปิดเศรษฐกิจ การคลายมาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศ และความหวังต่อยารักษาโควิด-19 นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงขายให้อ่อนค่าลง หลังผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ย้ำสัญญาณพร้อมผ่อนคลายด้วยทุกเครื่องมือทางการเงินที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ