นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การหารือในเรื่องการพิจารณามาตรการเปิดธุรกิจของสถานประกอบการต่างๆ ภายใต้คณะทำงานย่อย โดยพร้อมจะเสนอข้อมูลต่อสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ในวันที่ 20 เมษายนนี้ ซึ่งการหารือของภาคเอกชนได้มีการพิจารณากรอบในการเปิดธุรกิจ เป็น 2 แนวทาง ประกอบด้วยการพิจารณาจาก พื้นที่ และกลุ่มธุรกิจที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิต โดยการพิจารณาจากพื้นที่นั้น หากพื้นที่ใดมีการติดเชื้อน้อยก็อาจสามารถพิจารณาเปิดดำเนินธุรกิจได้ก่อน โดยเฉพาะในจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อและจังหวัดที่มีมาตรการดูแลอย่างเข้มข้น จนทำให้มีการติดเชื้อน้อย เช่นจังหวัดลำปาง อาจใช้เป็นจังหวัดนำร่องในการเปิดธุรกิจ เพื่อทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่สามารถเดินหน้าได้

และการพิจารณาจากกลุ่มธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตนั้น เบื้องต้นอาจจำกัดอยู่ในกลุ่มของร้านอาหาร ศูนย์การค้า ที่จะต้องมีการจำกัดปริมาณผู้ใช้บริการ ผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อยังคงเว้นระยะห่างทางสังคม โดยในรายละเอียดมาตรการของแต่ละธุรกิจ ที่ประชุมได้ให้สมาคมการค้าที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้จัดทำในรายละเอียดของมาตรการควบคุม ซึ่งจะต้องเป็นมาตรการที่รัดกุมสามารถดูแลควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ รวมถึงรายละเอียดของการเตรียมตัวในการให้บริการต่างๆ ที่จะต้องรอบคอบ

ในขณะที่การดูแลระบบการขนส่งสินค้านั้น เวลานี้ภาครัฐได้มีการออกมาตรการที่ชัดเจนขึ้น สามารถบริหารจัดการในเรื่องของการขนส่งได้ดีขึ้นแล้ว แต่ในส่วนของภาคเอกชนนั้นจะพยายามพิจารณาการลดการขนส่งสินค้าในยามวิกาล เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ กระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตามประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินและการประกาศเคอร์ฟิวในประเทศ