ไทยพาณิชย์ ขานรับนโยบายธปท. เพิ่มมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิตสู้โควิด-19 นำเสนอบริการ “ดีจัง แบ่งชำระรายเดือน” ดอกเบี้ย 12% ระยะเวลา 48 เดือน

นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศชะลอตัว กระทบต่อธุรกิจและรายได้ของผู้คนในประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์มีความห่วงใยและตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้าจึงได้จัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือลูกค้าและออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมาตรการการสำหรับลูกค้าบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ธนาคารได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ได้แก่ ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 10% เป็น 5% (ในปีพ.ศ. 2563 – 2564) 8% (ในปีพ.ศ. 2565) และ 10% (ในปีพ.ศ. 2566) โดยปรับให้ลูกค้าทุกคนอัตโนมัติตั้งแต่รอบบิลเดือนเมษายนเป็นต้นไป และมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นานสูงสุด 6 เดือน ซึ่งลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อรับมาตรการช่วยเหลือผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ แอปพลิเคชัน SCB EASY คอลเซ็นเตอร์ และสาขาธนาคารทั่วประเทศ และล่าสุดธนาคารได้เพิ่มเติมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต ขานรับและร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยในเดือนเมษายนนี้ ธนาคารจะนำเสนอบริการ

“ดีจัง แบ่งชำระรายเดือน” (Call for ดีจัง) ดอกเบี้ยพิเศษ 12% ต่อปี ระยะเวลา 48 เดือน ผ่านโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน SCB EASY ทั้งนี้ ธนาคารได้แบ่งกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบออกเป็นทางตรงและทางอ้อม โดยพิจารณาจากอาชีพ รายได้ สถานที่ทำงาน ที่อยู่อาศัย และลูกค้าต้องไม่มีประวัติค้างชำระ”

“สำหรับภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลในครึ่งปีแรก 2563 คาดว่ายอดใช้จ่ายโดยรวมจะหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก ธนาคารจึงได้ปรับแผนธุรกิจโดยจะเน้นให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหา ผ่านมาตรการพักชำระหนี้สูงสุด 6 เดือน การลดอัตราชำระคืนขั้นต่ำจาก 10% เป็น 5% (เมษายน 2563 – ธันวาคม 2564) รวมถึงบริการ “ดีจัง แบ่งชำระรายเดือน” ดอกเบี้ย 12% ต่อปี เป็นระยะเวลา 48 เดือน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ ธนาคารจะเร่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคารให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจและช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ไปด้วยกัน” นางอภิพันธ์ กล่าวเสริม