ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ในข้อหาหมิ่นประมาทฐานหมิ่นประมาท จากกรณีให้สัมภาษณ์ พาดพิง นพ.เหวง โตจิราการ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กลุ่มแกนนำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2554 โดยเห็นว่าการลงเลือกตั้งส.ส. พรรคเพื่อไทยจัดแกนนำ นปช.ไว้ในกลุ่มรายชื่อลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ลำดับต้นๆ และได้รับเลือกตั้ง ส่วนที่นายสุเทพกล่าวถึงเหตุการณ์ชุมนุมที่มีการเผาศาลากลางจังหวัด และห้างสรรพสินค้า เมื่อปี 2553 ก็เป็นไปตามรายงานการสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะที่นายสุเทพ กล่าว ก็อยู่ในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง รายงานสถานการณ์ให้ประชาชนรับทราบการกระทำของจำเลย จึงไม่เป็นการกล่าวข้อความอันเป็นเท็จ ไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ในขณะเดียวกัน นายสุเทพ กล่าวปฏิเสธถึงข่าวลือว่ากำลังเตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ คนนอก โดยระบุว่า ตนลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี 2556 โดยประกาศตัวเป็นผู้รับใช้ประชาชน และออกมาชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ และมีผลต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ เป็นธรรมดาที่ต้องมีคนคาดคิดว่าตนจะทำแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งตนให้ความเคารพทุกคนว่าจะพูดหรือคิดอย่างไร เป็นเรื่องของแต่ละคนที่เข้าใจกันไปเอง ตนยืนยันว่าช่วงชีวิตที่เหลือ จะอุทิศเวลารับใช้สถาบัน ศาสนาและประชาชน เท่าที่จะทำได้ และยืนยันว่าไม่คิดหันไปเล่นการเมืองอีก ไม่ร่วมรัฐบาลกับใคร ไม่เป็นนักการเมือง ไม่เป็นลงสมัครส.ส. อย่างแน่นอน