“กรมเจ้าท่า”สนธิกำลังร่วมกับ “กองบังคับการตำรวจน้ำ” ขอความร่วมมือผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งผู้โดยสารทางเรือให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น
หลังจากที่รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวทั่วราชอาณาจักร สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังขยายวงกว้างอยู่ในในขณะนี้ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ และ บก.มหด.904 ร่วมกับกรมเจ้าท่า โดยนายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ขอความร่วมมือผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งผู้โดยสารทางเรือให้ปฏิบัติมาตรการป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข
ประกอบด้วย เรือด่วนเจ้าพระยา, เรือข้ามฟากซึ่งเป็นท่าเรือหลักในแม่น้ำเจ้าพระยา และเรือผู้โดยสารในคลองแสนแสบ โดยให้ตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสารด้วยการตรวจวัดไข้ พร้อมให้จัดระบบการให้บริการตามมาตรการ Social distancing โดยให้กำหนดจุดคัดกรอง พร้อมกำหนดระยะห่างของการเข้าคิวซื้อตั๋วโดยสาร รวมทั้งกำหนดที่นั่งในเรือโดยสารให้มีระยะห่างจากกัน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการเป็นอย่างดี
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น พบว่าจำนวนผู้โดยสารทางน้ำลดลงเป็นอย่างมาก อาทิ ท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ที่บริเวณท่าน้ำนนท์ มีประชาชนไปใช้บริการลดลงจากเดิม 2-3 พันคน เหลือเพียง 5-6 ร้อยคนต่อวัน ส่วนภาพรวมผู้โดยสารเรือสินค้า และแพขยานยนต์ จากเดิมมีผู้ใช้บริการวันละ 18,000 คน ลดเหลือเพียงวันละประมาณ 5,000 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ ท่าเรือข้ามฟากตามแนวแม่น้ำโขงซึ่งมีทั้งหมด 37 ท่า ตั้งแต่ จ.เชียงราย ไล่ลงมาถึง จ.อุบลราชธานี ต่างปิดให้บริการ คงเหลือเปิดให้บริการในพื้นที่ จ.จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นท่าขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเพียง 3 ท่า และที่ จ.บึงกาฬ อีก 1 ท่า เป็นแพขนานยนต์ โดยมีรถบรรทุกสินค้าข้าม-ไปมาไม่เกิน 10 คันต่อวัน
สุดท้าย คือ ผู้ประกอบธุรกิจเรือโดยสารทางทะเลและเรือท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทยจำนวน 31 ท่า ขณะนี้เหลือเปิดให้บริการอยู่เพียง 13 ท่า มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 3,000 คน ส่วนฝั่งอันดามันมีทั้งสิ้น 46 ท่า แต่เปิดให้บริการเพียง 7 ท่า มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 2-3 ร้อยคน ซึ่งผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นคนที่อาศัยตามเกาะต่างๆ ทั้งนี้บังคับการตำรวจน้ำ พร้อมปฏิบัติการให้การสนับสนุนแต่ละจังหวัดอย่างเต็มที่หากมีการร้องขอ