หน้าแรกการเมือง"มท.2" ย้ำส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯไม่เกี่ยวจะเคอร์ฟิว 24 ชม.

“มท.2” ย้ำส่งหนังสือถึงผู้ว่าฯไม่เกี่ยวจะเคอร์ฟิว 24 ชม.

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงว่า การที่กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการที่จะประกาศเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมงแต่อย่างใด
แต่เป็นการทำหนังสือแจ้งให้จังหวัด โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เตรียม 5 เรื่อง

1. เตรียมสถานที่รองรับคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่จะต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ที่ทุกจังหวัดจะต้องเตรียมสถานที่ไว้
2. เตรียมความพร้อมเพื่อทำความเข้าใจกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องสร้างความเข้าเกี่ยวกับเรื่องของการระบาดโควิด-19
3. เตรียมพร้อมเรื่องศูนย์อาหาร
4. เตรียมความพร้อมหากเกิดกรณีที่มีการขยายเวลาเคอร์ฟิวเพิ่มขึ้น เพื่อจะได้มีการเตรียมอาหารสำหรับประชาชนให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค รวมทั้ง
การจัดการเรื่องคมนาคม ขนส่งวัสดุสิ่งของ Supply Chain ต่าง ๆ ด้วย ว่าจะต้องทำอย่างไรในแต่ละพื้นที่
5. การให้แต่ละจังหวัดรายงานความก้าวหน้า ปัญหาของแต่ละจังหวัดมายังศูนย์โควิด กระทรวงมหาดไทย

ดังนั้นเรื่องทั้งหมดที่ออกไปคือการเตรียมความพร้อมในแต่ละจังหวัดให้ทุกจังหวัดโดยเฉพาะศูนย์อาหารในแต่ละพื้นที่ว่า ต้องเตรียม ถ้ามีความจำเป็นถึงขั้นต้องจัดการเรื่องอาหารจะต้องดำเนินการอย่างไร จะจำหน่าย จ่ายแจกจ่ายอย่างไร ในภาวะจำเป็นเช่นนี้ ซึ่งประกาศทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมความพร้อม แต่ไม่ใช่การเตรียมพร้อมในเรื่องของการประกาศขยายระยะเวลาเคอร์ฟิว เพราะอำนาจในการขยายเวลาเคอร์ฟิวเป็นอำนาจของศูนย์โควิดที่ทำเนียบรัฐบาล จะเป็นผู้พิจารณาสถานการณ์เป็นระยะๆ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเป็นเพียงการเตรียมความพร้อมในเรื่องของอุปโภคบริโภคของประชาชนมากกว่า

นายนิพนธ์ ยังเปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ไฟป่าตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น โดยเพลิงไหม้ได้เกิดขึ้นอยู่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่และอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างให้แก่พื้นที่โดยรอบกว่า 2,400 ไร่ โดยในขณะนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังป้องกันการปะทุลุกลาม และติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชม. โดยตนเองได้สั่งการไปยัง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)? เพื่อให้นำเฮลิคอปเตอร์ของ ปภ.บรรทุกน้ำเพื่อดับไฟและควบคุมสถานการณ์รอบบริเวณแนวเขาและพื้นที่เสี่ยงต่อการลุกลามของไฟป่า เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและจำกัดความเสียหายพื้นที่ป่าอุทยานฯ รวมถึงการลดปัญหามลภาวะฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับการให้ความช่วยเหลือไปแล้วนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติกรมป่าไม้สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มทบ.33 อำเภอแม่ริม อบจ.เชียงใหม่ อส. อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิจิตอาสา เข้าทําการควบคุมไฟป่า พร้อมทําแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่าไม่ให้ลุกลาม

ขณะเดียวกัน นายนิพนธ์ เสียใจต่อการสูญเสียผู้ใหญ่บ้านในเหตุการณ์ดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านถือเป็นบุคลากรด่านหน้าที่สำคัญของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ราษฎรในแนวกันไฟไปร่วมปฏิบัตงานดับไฟป่าแล้วมีการเสียชีวิต ซึ่งทุกคนต่างเป็นบุคคลที่ทุ่มเทการทำงานและอุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม จุงขอเป็นกำลังใจให้แก่ญาติครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ การปฏิบัติงานที่ภารกิจยังไม่แล้วเสร็จนั้น ตนขอกำชับไปยังเจ้าหน้าที่และราษฎรในพื้นที่ รวมทั้งอาสาสมัครฯต่างๆ ที่เข้าไปปฏิบัติงานได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยให้มีการประเมินสถานการณ์การปฏิบัติงานทุกระยะเพื่อการเข้าพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยและลดการสูญเสียไม่ให้เกิดขึ้นอีก

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img