นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการค้าโลกชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง มีสาเหตุหลักจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวมาตั้งแต่กลางปี 2562 และทำให้การบริโภคภายในประเทศชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาส1มาจนถึงไตรมาสนี้และการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ไปทั่วโลก โดยเริ่มมีการจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 รวมถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน (PM2.5) ที่เป็นปัญหาต่อการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

โดยไตรมาส 1 ของปีนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.70 ล้านคน ลดลงร้อยละ 37.96 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาดเริ่มรุนแรงในปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และคาดว่ามีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 343,130 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 38.4 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562

ทั้งนี้ หากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายได้เร็ว ภายใน 6 เดือน ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีประมาณ 26.59 ล้านคน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 33.19 และคาดว่ามีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีประมาณ 1.23 ล้านล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 36.38

ดังนั้น สทท.จึงขอเสนอให้ภาครัฐใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดด้วยวิธีจำกัดการเดินทาง และใช้อำนาจตามพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน บังคับให้ประชาชนผู้เดินทางไปในพื้นที่สาธารณะใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยแบบต่าง ๆ พร้อมทั้งกระชับงานด้านสื่อสารมวลชนให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือทุกภาคส่วน ในส่วนของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลควรเตรียมมาตรการการด้านเศรษฐกิจไว้ล่วงหน้า และเร่งเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้เร็ว