ดังนั้น จึงได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การบินพลเรือน โดยได้ข้อสรุปร่วมกัน 3 ประเด็นที่สำคัญ คือ
ประเด็นแรก แนวทางในการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายจากการใช้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) เพื่อใช้ประกอบการขึ้นทะเบียนผู้ใช้โดรน ซึ่งจะจัดทำเป็นกรมธรรม์ประกันภัยแบบมาตรฐานร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย ด้วยการสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก กพท. เพื่อให้ความคุ้มครองที่สอดคล้องกับกฎหมายและเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบเอกสารการขึ้นทะเบียน
ประเด็นที่ 2 การพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้ขนส่งที่ดำเนินการรับขนทางอากาศที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการรับขน (Freight Forwarder) เพื่อให้การประกันภัยมีความต่อเนื่องและครอบคลุมตลอดเส้นทางการขนส่ง ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยส่วนหนึ่งรับประกันภัยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจะมีการจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดของผู้ขนส่งฯ ฉบับมาตรฐานเพิ่มเติม ซึ่งมีแนวทางในการพิจารณารับประกันภัยแบบกลุ่มร่วมกับสมาคมขนส่งฯ ที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่ 3 การปรับใช้โดรนสำหรับธุรกิจประกันภัยที่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย เนื่องจากการใช้โดรนในการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ห่างไกล หรือใช้สำหรับตรวจสอบความเสี่ยงก่อนพิจารณารับประกันภัยเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ เช่น ห้ามทำการบินในบริเวณเขตห้าม/เขตจำกัด ทั้งนี้ ผู้บังคับโดรนต้องสามารถมองเห็นอากาศยานได้ตลอดเวลาที่ทำการบิน เป็นต้น ซึ่ง กพท. รับทราบประเด็นดังกล่าวเพื่อนำไปพัฒนาแนวทางการกำกับที่เหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับการประกันภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง คือ กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับสายการบินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน และกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับผู้ขนส่งที่ดำเนินการรับขนส่งทางอากาศ ซึ่งพบว่า มีกรมธรรม์ประกันภัยในตลาดรองรับและไม่พบอุปสรรคในการดำเนินงานใดๆ