8.มีค.2563กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ  วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง, พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส, พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป.

พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.ณัชณวินท์ กฤตปภาคชภัค, ร.ต.อ.ณัฐพล ผลชอบ รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป.

ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ชนัญชิดา หรือ นุ่น นาคประสูตร อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.84/2563 ลงวันที่ 5 มี.ค.2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

จับกุม บริเวณหลังที่พักใน หมู่ที่ 8 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม

สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนว่ามีบุคคลต้มตุ๋นขายหน้ากากอนามัยออนไลน์ผ่านทางเฟสบุ๊ก ชื่อ Khun nune หน้ากากอนามัยราคาส่ง ซึ่งเป็นสิ่งของที่ประชาชนต้องการในปัจจุบัน อาศัยเหตุการณ์มาหลอกให้หลงเชื่อว่ามีสินค้า ทำให้ตกเป็นเหยื่อโอนเงินแล้วไม่สามารถติดต่อได้

โดยเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2563 ผู้เสียหายส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ โดยบางรายจะซื้อหน้ากากอนามัย จำนวนมากเพื่อบริจาคให้กับเพื่อนที่อยู่ประเทศจีน หรือบริจาคให้กับสถานที่ต่างๆ หรือไว้ใช้ส่วนตัว เพราะเนื่องจากราคาไม่แพง และมีสินค้าจำนวนเพียงพอกับความต้องการ เมื่อผู้เสียหายลงเชื่อโอนเงินไปให้ ผู้ต้องหาจะทำทีว่าจะส่งสินค้าทันที หรือ ส่งไปกับรถสาธารณะเพื่ออำนวยความสะดวก แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งแต่ละรายจะสูญเงิน จำนวนหลายหมื่นบาทจนเกือบแสนบาท รวมความเสียหายที่สูญไปหลายแสนบาท

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงขายสินค้าหลายประเภท เช่น โทรศัพท์มือถือ, เสื้อผ้า, รองเท้า ล่าสุดเป็นหน้ากากอนามัย โดยเมื่อปี พ.ศ. 2558 ผู้ต้องหาเคยถูกจับจากการที่หลอกซื้อขายสินค้าออนไลน์ แต่ภายหลังจากถูกจับกุม ยังคงก่อเหตุหลอกลวง และหลบหนีอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา

จนกระทั่ง วันที่ 7 มี.ค.2563 เวลาประมาณ 06.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม สามารถจับกุม น.ส.ชนัญชิดา หรือนุ่น ผู้ต้องหา พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย ได้ที่บริเวณหลังที่พัก ภายในหมู่ที่ 8 ต.บัวปากท่า อ.บางเลน จ.นครปฐม

จากการสอบถามเบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าได้หลอกลวงผู้เสียหายต่างๆจริง แต่จำไม่ได้ว่าหลอกผู้ใดบ้าง เพราะมีเงินเข้าในบัญชีจำนวนมาก ซึ่งตนไม่มีหน้ากากอนามัยอยู่จริง แต่เอารูปมากจากอินเทอร์เน็ต แล้วโพสขายในเฟสบุ๊ก ที่บุคคลทั่วไปที่สนใจหลงเชื่อ โดยนำเงินจากที่หลอกลวงไปซื้อทอง, แหวน, และไปเที่ยว จนเงินหมดจึงได้นำของมีค่าที่ซื้อมาไปขายเพื่อใช้จ่าย ซึ่งผู้ต้องหายังรับสารภาพอีกว่าก่อนหน้าที่จะหลอกขายหน้ากากอนามัย มีการโพสขายของเสื้อผ้า, เครื่องแต่งกาย, โทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ส่งสินค้า และทราบว่าตนเองกำลังถูกตามตัวจากกลุ่มผู้เสียหายต่างๆ โดยที่ผ่านมาตนเองเคยถูกจับข้อหาฉ้อโกง จากการไม่ส่งสินค้าออนไลน์อีกด้วย