ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาครั้งที่ 4 คดีชุมนุมบุกล้อมสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อปี 2551 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธเนศร์ คำชุม กับพวกซึ่งเป็นผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.), รวม 85 คน เป็นจำเลยที่ 1-85 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, ร่วมกันไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไปหรือซ่อนตัวในเคหสถาน หรือสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีอาวุธในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210, 215, 309, 358, 364, 365, 371 , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 ,พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2545 และพ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2535 ซึ่งอัยการ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 17 พ.ย.51
โดยล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาพิพากษายืนจำคุก ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) การ์ดกลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มนักรบศรีวิชัย รวม 84 คน ชุมนุม ปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ NBT ปี 2551 โดยให้จำคุกนายธเนศร์ คำชุม จำเลยที่ 1 นายเมธี อู่ทอง จำเลยที่ 24 คนละ 8 เดือน ,จำเลยที่ 2-23, 25-29 , 31-41 , 43– 46 , 48 – 80 ,82 จำคุกคนละ 6 เดือน และเมื่อรวมโทษปรับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นายชนินทร์ อินทร์พรหม จำเลยที่ 2 ,นายจรัส วีระพันธ์ จำเลยที่ 39 กับนายธนพล แก้วเชิด ที่ 80 จึงเป็นจำคุกคนละ 6 เดือนและปรับ 500 บาท ส่วนนายอัมรินทร์ ยี่เฮง จำเลยที่ 48 ให้บวกโทษคดีอื่นกับคดีนี้ เป็นจำคุก9เดือน และนายประดิษฐ์ คงช่วย จำเลยที่ 70 เช่นกันให้จำคุกทั้งสิ้น8เดือน
สำหรับจำเลยที่ 30 ,47,81 จำคุกคนละ 4 เดือน และจำเลยที่ 83-85 จำคุกคนละ 3 เดือน ขณะกระทำผิดทั้ง6คน เป็นเยาวชน จึงเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ ส่วนความผิดฐานซ่องโจรนั้นให้ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว จำเลยทั้งหมดจะถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวเข้าเรือนจำทันทีในวันนี้ โดยให้ออกหมายจับจำเลย5คน ที่ไม่มาฟังคำพิพากษาในวันนี้ เพื่อให้มารับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุดแล้ว
โดยพฤติการณ์คดี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22-25 ส.ค.51 จำเลยทั้ง 82 คนกับอีก 3 คนซึ่งเป็นเยาวชน ร่วมกันบุกรุกอาคารสำนักงานสถานี NBT พร้อมพกอาวุธจำนวนมาก จากนั้นจำเลยได้ร่วมกันทำลายทรัพย์สินรวมค่าเสียหายทั้งสิ้นกว่า 6 แสนบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของทางราชการ โดยจำเลยที่ 1 มีเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคม ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่จำเลยที่ 39 , 80 มีใบกระท่อม ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 รวมจำนวน 18 ใบไว้ในครอบครองจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี