กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ประกาศแผนธุรกิจปี 2563 ด้วยการผลักดันแผนเชิงยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ -การสร้างประสบการณ์ลูกค้าผ่านกระบวนการพัฒนาเพื่อปรับเปลี่ยนองค์กรโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) -การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยศักยภาพด้านข้อมูล และ -กลยุทธ์ความร่วมมือกับพันธมิตร และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 75 ปี ของกรุงศรี ธนาคารตั้งเป้าที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 7.5 ล้านกิโลกรัมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (7.5 million kgCO2e) ตอกย้ำถึงความรับผิดชอบขององค์กรในการมีส่วนร่วมรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“ท่ามกลางความท้าทายนานัปการที่ภาคการธนาคารต้องเผชิญในปี 2562 กรุงศรียังคงส่งมอบผลงานที่โดดเด่นทั้งในด้านการเงิน และด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ดังจะเห็นได้จากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่สูงที่สุดและคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารในกลุ่มสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) นอกจากนี้ ปีที่แล้วยังเป็นปีที่กรุงศรีออกจำหน่ายพันธบัตรที่คำนึงถึงเพศสภาพเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
สำหรับปี 2563 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน กรุงศรีจะยังคงเดินหน้าสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำในประเทศไทย ด้วยแผนเชิงยุทธศาสตร์ 3 ด้านที่ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม ประกอบด้วย
1). การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
2) .การใช้ประโยชน์จากศักยภาพด้านข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนองค์กร
3) . การมุ่งเน้นกลยุทธ์ความร่วมมือกับพันธมิตร
“กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2563 นี้ เราจะมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงธุรกิจการเงินในยุคดิจิทัลผ่านการพัฒนานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ การใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนกระบวนการทำงาน และการยกระดับบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับการริเริ่มโครงการที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า ซึ่งรวมทั้งกลุ่มผู้ใช้รถ ผู้ซื้อบ้าน และผู้ประกอบการ SME” นายอาคิตะ กล่าวเพิ่มเติม
กรุงศรีมีเป้าหมายในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนโดยเชื่อมโยงกับพันธกิจด้าน ESG ธนาคารจึงได้ริเริ่มโครงการใหม่ๆ หลายโครงการเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชนผ่านนวัตกรรมดิจิทัลและการให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน นอกจากนี้ ปี 2563 เป็นปีที่ครบรอบ 75 ปี แห่งการก่อตั้งธนาคาร กรุงศรีจึงตั้งเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 7.5 ล้านกิโลกรัมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ในการดำเนินงานในทุกกิจกรรมของกรุงศรีรวมทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของประเทศ
ในปี 2563 กรุงศรีคาดว่าเงินให้สินเชื่อจะเติบโตในระดับ 5-7% และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ 3.4 -3.6% การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ในช่วง -3% ถึง 3% และอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.5%
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 75 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 690 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 650 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 34,902 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 9.1 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย