ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง หรือกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยประกาศโรดแม็ปการเคลื่อนไหวว่า ฝ่ายความมั่นคงติดตามอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ประมาณ 6-7 คนที่เป็นแกนนำ และมีอีกส่วนหนึ่งที่ตามมาผสม กลุ่มนี้เคลื่อนไหวแสดงเจตนารมณ์อยากให้จัดการเลือกตั้ง ตนคิดว่าก็สอดคล้องกับคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ต้องการเลือกตั้ง แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ คนส่วนใหญ่เข้าใจเหตุผลและขั้นตอน จึงยอมให้ใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ดีกว่าออกมาเผชิญหน้ากัน ทำให้สถานการณ์ย้อนกลับมาสู่ที่เดิม
เมื่อถามว่าการชุมนุมจะขยายวงกว้างไปในพื้นที่ต่างจังหวัด จะเป็นการจุดประเด็นให้คนออกมาชุมนุมจำนวนมากหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ต้องการความสงบ ตนย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ประกาศว่าไม่มีเลือกตั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ถ้านำคนออกมาเผชิญหน้ากันจะทำให้ปัญหาบานปลายมากขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐจะใช้กฎหมายตามเหมาะสม
เมื่อถามว่าได้ติดตามข่าวว่ามีใครสนับสนุนกลุ่มนี้หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามอยู่ ซึ่งผู้นำแต่ละพรรคได้ออกมาปฏิเสธแล้ว และอยากให้ทุกอย่างเดินตามขบวนการที่วางไว้ มากกว่าการใช้กำลัง ไม่ใช่เดินหน้าจนประเทศเสียหาย ขอย้ำว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ดำเนินการด้วยไม้แข็งอย่างแน่นอน เราดำเนินการตามกฏหมายปกติที่มีอยู่
เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ทหารยืนเคียงข้างประชาชน จุดยืนของกองทัพเป็นอย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย ย้อนถามว่า ประชาชนกี่คน และประชนทุกคนเห็นสอดคล้องกับกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าวหรือไม่ ตนเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ ทุกคนอยากเลือกตั้ง และเข้าใจเหตุผลและความจำเป็นในขั้นตอนของกฎหมาย ฉะนั้นต้องว่าตามกฎหมายเป็นหลัก หากคำนวณขั้นตอนทางกฎหมาย ก็จะมีการเลือกตั้งในเดือนก.พ.2562
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ส่วนที่ผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหว ตนคิดว่าอาจจะครบวงรอบ 4 ปี จึงอยากจุดประเด็นนี้ขึ้นมา แต่เท่าที่เห็นไม่มีเหตุการณ์อะไรที่คนต้องออกมาชุมนุม ส่วนจะบานปลายเหมือนเหตุการณ์พ.ค.2535 หรือไม่นั้น ตนตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในช่วงนี้ว่า ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่อยากไปเชื่อมโยงทุกเรื่อง ส่วนจะกระทบความเชื่อมั่นในคสช.และรัฐบาลหรือไม่ ที่ไม่สามารถจับกุมทั้ง 2 คนมาดำเนินคดีได้นั้น ตนคิดว่าทุกเรื่องมีขั้นตอนดำเนินงาน และมีวิธีการอยู่ ไม่ใช่เราจะส่งคนไปจับกุมตัวมาได้เลย บางครั้งมันเกิดกรอบ และขีดความสามารถการรับผิดชอบ เราคงใช้การประสานงานระหว่างประเทศเป็นหลัก
เมื่อถามว่า พรุ่งนี้ (20 ก.พ.) ผบ.ทบ.จะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อรับเหรียญอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติด้านการทหาร เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ อดีตนายกทักษิณ อยู่ที่ประเทศดังกล่าว จะมีโอกาสพบกันหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า “ผมไปทำงาน ไม่ต้องมาเชื่อมโยง หากมาเชื่อมโยงแบบนี้ มันเลอะเทอะ สิงคโปร์กว้างใหญ่ คงไม่เจอกัน ต่างคนต่างมีวิถีทางเป็นของตนเอง เราไปทำงาน เขาจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็ว่าตามขบวนการ ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ดูความเคลื่อนไหวและติดตาม”
เมื่อถามว่า อดีตกลุ่ม ส.ส. พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบอดีตนายกฯ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ทุกวันนี้ คสช. ได้ลดความเข้มข้นและเข้มงวดไปมากพอสมควร จะบอกว่า เป็นเผด็จการก็คงไม่ใช่ ทุกวันนี้เราแทบไม่ใช้กำลังทหารเข้าไปควบคุมใครเลย เน้นเพียงการทำความเข้าใจเท่านั้นเอง พร้อมทั้งเชื่อว่า ในสามัญสำนึกความเป็นคนไทยทุกคนต้องการเห็นประเทศไทยสงบสุขเราก็วางแนวทางไว้อยู่แล้ว ดังนั้น ต้องช่วยกันประคับประคอง ให้เดินไปถึงจุดนั้นดีกว่า
ผบ.ทบ. กล่าวถึงกอ.รมน.ลงพื้นที่ทำโพลสำรวจเรื่องอยากเลือกตั้งหรือไม่อยากเลือกตั้งว่า กอ.รมน.ยังไม่เคยทำ แต่เราก็ฟังเสียง ดูจากธรรมชาติของคน พออยู่นานก็รู้สึกเบื่อ อยากหาสิ่งที่ดีกว่า แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ดีกว่าคืออะไร เรื่องการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า กอ.รมน.ทำโพลแล้วพรรคเพื่อไทยยังได้รับความนิยมและจะชนะเลือกตั้ง พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า กอ.รมน.ไม่ได้ทำ แต่โพลทั่วไปที่สำรวจออกมา คนส่วนใหญ่อยากเลือกตั้งกว่า 50-60 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็นเรื่องปกติ
