หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม“ผบ.ตร.”ยันจับ ผอ.รร.ผู้ต้องหาชิงทองไม่จับแพะ หลักฐานมัดแน่น

“ผบ.ตร.”ยันจับ ผอ.รร.ผู้ต้องหาชิงทองไม่จับแพะ หลักฐานมัดแน่น

วันที่ 22 ม.ค.63 ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดลพบุรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผ็บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนควบคุมตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว อายุ 38 ปี ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทองที่ร้านทองออโรล่า ห้างสรรพสินค้าโรบนสัน จ.ลพบุรี มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

โดยการนำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ พร้อมหน่วยคอมมานโดอาวุธครบมือเฝ้าคุ้มกันผู้ต้องหาอย่างหนาแน่น เพราะภายหลังจากที่ประชาชนทราบข่าวว่ามีการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา เมื่อผู้ต้องหามาถึงพบว่าสวมเสื้อแขนยาวสีเทา สวมกางเกงขายาว ปิดบังใบหน้าด้วยการใส่แมต สวมหมวกแก็ป โดยเจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวเข้าห้องสอบสวนทันทีโดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพทำข่าว โดยกั้นพื้นที่เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของผู้ต้องหาที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ขณะเดียวกันประชาชนที่เฝ้ารออยู่ต่างตะโกนสาบแช่งให้ประหารชีวิตและตกตายไปตามกัน

ภายหลังสอบปากคำประมาณ 30 นาที พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า หลังจากศาลจังหวัดลพบุรีได้ออกหมายจับ นายประสิทธิชัย เมื่อช่วงเช้า พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมด้วยคณะทีมสืบสวนสอบสวนได้เข้าควบคุมตัวคนร้ายมาสอบปากคำ แต่จากการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะยังสอบปากคำไม่เสร็จ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจับครั้งนี้จับแพะหรือเปล่าเพราะถูกสังคมกดดัน ผบ.ตร.เผยว่า ถ้าจับแพะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยืนอยู่ได้อย่างไร ไม่มีการจับแพะแน่นอน รายละเอียดทั้งหมดจะแถลงอีกครั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 10.30 น. ถามต่อว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ผบ.ตร.ตอบว่าเขาก็ไม่ปฏิเสธ รู้สึกสำนึก แต่ไม่ขอเผยเพราะยังเหลืออีกหลายขั้นตอน ถามอีกว่ามูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้คืออะไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ ตอบว่า ขอพรุ้งนี้จตะตอบให้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่เกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้อยู่ในบัญชีของเจ้าหน้าที่ในการติดตามตัวคนร้ายหรือไม่ ผบ.ตร.ตอบว่า อยู่ในขบวนการตั้งแต่ต้นอยู่ในตระกร้าของเรา และทำเพียงคนเดียว และมีหลักฐานเพียงพอ ขอร้องประชาชนอย่าใช้ความรุนแรงถึงแม้จะโกรธจะเกลียดก็ตาม เพราะขณะนี้ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว

ด้านนายวัลลภ นิ่มมา บิดาของ นายธีรฉัตร นิ่มมา รปภ.ห้างโรบินสันลพบุรี ผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ปล้นชิงทอง กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนจริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ เป็นถึงผอ.โรงเรียนแต่กลับมาก่อเหตุ ถือว่าจิตใจโหดร้าย และโหดเหี้ยมมากๆ หากพบหน้าก็อยากถามว่า ทำไมเป็นคนโหดร้ายเช่นนี้ทั้งๆที่มีการศึกษาดี หรือการศึกษาไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจให้ดีขึ้น เป็นถึงครูบาอาจารย์ ควรจะมีวุฒิภาวะที่ดีกว่านี้ จากพฤติการณ์จะเห็นว่าเขาเป็นคนนิ่ง เยือกเย็น จิตใจโหดพอที่จะทำสิ่งที่ผิด ถ้าตอนนี้ลูกชายรับรู้ได้ อยากบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนที่ฆ่าลูกได้แล้ว เขาฆ่าลูกโดยที่ลูกยังไม่ได้สั่งเสียอะไรถึงพ่อแม่เลยสักคำ สิ่งที่อยากฝากกถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและกระบวนการยุติธรรม คือ ควรตัดสินประหารชีวิตสถานเดียว และไม่ควรลดโทษให้แม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพ เพราะสิ่งที่เขาทำ ส่งผลให้ครอบครัวแต่ละครอบครัวได้รับความสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ การที่เขารับสารภาพเพราะว่าจนต่อหลักฐานและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการแก้กฎหมายเพื่อให้ลงโทษประหารชีวิตเพราะถ้าติดคุกไม่น่าจะเกิน 15 ปี แล้วก็จะกลับมาก่อเหตุซ้ำ สร้างความหวาดระแวงและทำให้คนหวาดกลัวอีก

นายวัลลภ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากบอกว่า ทุกชีวิตมีค่า มีความหมาย ทุกคนมีค่าสำหรับทุกครอบครัว เขาทำด้วยความโหดเหี้ยมโหดร้ายไม่สมควรที่จะติดคุกเพียงไม่กี่ปี การกระทำของเขาที่ไปเที่ยวงานวันเด็กและไปใช้ชีวิตแบบปกติ เพราะคนตายก็มีลูก 2 คน เขาก็อยากจะพาลูกไปเที่ยงวานวันเด็กเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาสคนร้ายเขาเป็นถึงครูแต่จิตใจกลับโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ผมไม่ให้อโหสิกรรมและไม่ให้อภัยกับคนประเภทนี้ ต้องประหารอย่างเดียว การศึกษาไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจหรือช่วยอะไรเลยสำหรับคนคนนี้

ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์ ผู้เป็นพ่อของ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ (พนักงานร้านทองออโรร่า)​ กล่าวว่า ขอรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.​ จึงจะปักใจเชื่อว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุตัวจริงไม่ใช่แพะ​ เบื้องต้นเท่าที่ดูใบหน้าและรูปร่าง​ พบว่ามีความใกล้เคียงกับคนในรูปคลิปภาพ ยอมรับว่าหลังจากทราบข่าวรู้สึกโล่งใจ​ รวมถึงดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้​ ทั้งนี้หลังมีการเผยแพร่ข่าวจับกุมคนร้ายออกไป​ ญาติพี่น้อง​ รวมถึงเพื่อนร่วมงานของบุตรสาว​ ร่วมแสดงความยินดี อยากฝากถึงคนร้าย​ ว่าทำไมถึนโหดร้ายทำกับคนที่ไม่มีทางสู้​ และไม่คิดต่อสู้เขา​ ถ้าแค่ชักปืนขึ้นมาเฉยๆเข้าก็มอบกันหมดแล้ว​ แต่นี้ไม่พูดจายิงอย่างเดียว​ คนไหนขวางหน้ายิงหมด​ มันไม่ใช่นิสัยของมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกกัน​ มันคือซาตานกลับชาติมาเกิดทำเกินกว่าเหตุ​ ไม่ขออโหสิกรรมให้​เพราะทำเกินไป

ร.อ.สุรกิต​​ กล่าวอีกว่า​ หลังผ่านเหตุการณ์ความสูญเสียมากว่า​ 10 วันก็คิดเพียงว่าลูกสาวก็ตายไปแล้ว​ คนยังอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป​ เลี้ยงหลานให้เจริญเติมโต ได้รับการศึกษาที่ดีและเป็นอนาคตของชาติต่อไป​ อย่างไรก็ตามขอขอบคุณผอ.โรงเรียนที่ให้หลานเข้าเรียนฟรีที่ให้เรียนถึงชั้นสูงสุด​ สำหรับหลาน​เชื่อว่าเขารู้ว่าแม่ตายแล้วแต่ก่อนนอกก็ยังถามหาแม่​ ตนก็ต้องหลอกว่าแม่มานอนด้วยไม่ได้เพราะป่วย​

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img