วันที่ 23 ธค.2562 พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4.บก.ป.พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง.ผกก.4.บก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามแถลงข่าว
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ เดือนมกราคม พ.ศ. 2560 นายจิราวัฒน์ ธนาวิวัฒน์กุลศิริ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกกองปราบปรามจับกุมได้ก่อนหน้านี้ได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากถูกศาลพิพากษาจำคุกเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ หลังจากถูกจำคุกนานกว่า 6 ปี ซึ่งบุคคลที่เคยต้องโทษเหล่านี้ตามทฤษีทางอาชญาวิทยา มีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มอื่นที่จะกลับมาก่อคดีซ้ำ โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับทรัพย์และคดีทางเพศ ซึ่งหากกลับมากระทำผิดอีก จะพัฒนาวิธีการกระทำความผิดที่แยบยลและซับซ้อนมากขึ้น ทางกองปราบ จึงได้ให้ความสำคัญและเฝ้าระวังบุคคลกลุ่มนี้เป็นพิเศษ
ต่อมา เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2562 ได้เกิดเหตุลักทรัพย์ โดยคนร้ายได้งัดเข้าไปในบ้านพักอาศัยของผู้เสียหายในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อลักเอาทรัพย์สินมีค่าไป จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์มีลักษณะการก่อเหตุ หรือแผนประทุษกรรมที่คล้ายกัน โดยได้ทรัพย์สินมีค่าไปหลายรายการ รวมถึงอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 กระบอกด้วย
และต่อมา เมื่อ 20 ธค.2562 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าไปชิงทองในร้านทองชื่อดังในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากได้ทองคำไป 2 บาท คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้การกองปราบ สั่งการตำรวจชุดสืบสวนกองปรามให้ติดตามสืบสวนติดตามตัวคนร้ายหลายนี้มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งวันเกิดเหตุ
สุดท้าย จากการเฝ้าระวังและติดตามข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในท้องที่ จ.เชียงใหม่ ก็สามารถรวบรวมข้อมูลทางการสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุด
จากการสอบสวนคนร้าย ทำให้ทราบว่า หลังจากพ้นโทษออกมา คนร้ายได้ทำการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากนั้น คนร้ายรับว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์บ้านพักอาศัยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้ทรัพย์สินมาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ในการก่อเหตุชิงทอง จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีมากบดานที่ จ.เชียงใหม่ และได้เตรียมการก่อเหตุอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ คนร้ายได้เริ่มจากการลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมเปลี่ยนป้ายทะเบียนเพื่อให้ยากในการติดตามตัว และได้ลงมือก่อเหตุชิงทองอย่างอุกอาจในครั้งนี้…