เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงาน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมกันติดตามจับกุมตัว นายมานะ หรือ ซัน รัตโส อายุ 51 ปี ชาว ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 324/2562 ลงวันที่ 8 พ.ย.2562 ในข้อหา“ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การหลบหนีและการพาทรัพย์นั้นไป และร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนสรรพวุธ แขวงและเขตบางนา กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายกลุ่มหนึ่งใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจประตูบุกเข้าไปภายในบ้านพักของนายอภิชาติ หรือ เฮียช้าง ทรานลี่ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านเอวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ท้องที่ สภ.วิชิต ก่อนเข้าไปลักเอาทรัพย์สินภายในบ้าน พร้อมกับยกตู้นิรภัยหรือตู้เซฟน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของบ้านพัก ซึ่งภายในมีทรัพย์สินมีค่าต่างๆและเงินสดมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาทหนีไป ทั้งนี้ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และตำรวจ สภ.วิชิต จึงได้กระจายกำลังลงพื้นที่เร่งสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง จนมีการขออำนาจขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหากลุ่มนี้จำนวน 3 คน กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เจ้าหน้าที่กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต สืบทราบว่านายมานะ ผู้ต้องหารายนี้ภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงได้ประสานมายังกองปราบเพื่อขอสนับสนุนกำลังในการลงพื้นที่ช่วยติดตาม จนกระทั่งได้พบตัวนายมานะ ผู้ต้องหารายนี้กำลังเดินอยู่ริมถนนสรรพวุธ พื้นที่ย่านบางนา จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายมานะ ยังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากแนวทางสืบสวนพบว่านายมานะและพวกมีประวัติการก่อเหตุลักทรัพย์ตู้เซฟตามบ้านพักในหมู่บ้านหรู มาอย่างโชกโชน ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อีกทั้งภายหลังจากก่อเหตุในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดังกล่าวแล้ว ยังได้ไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำอีกที่ จ.สระบุรี ได้ทรัพย์สินไปกว่า 6 ล้านบาท ก่อนจะหนีมากบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่กทม. เพื่อเตรียมการก่อเหตุครั้งใหม่ แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.วิชิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป