เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) น.ส.เจี๊ยบ (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 30 ปี แม่ค้าออนไลน์ พร้อมกลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชนะชัย ภูราช รอง สว.(สอบสวน)กก.6 บก.ป. เพื่อเอาผิดกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ “จินา จิราพรรณ” หลังมีการโพสต์ประกาศขายทองรูปพรรณในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป แต่เมื่อมีการจ่ายเงินสั่งซื้อกลับไม่ได้รับทองรูปพรรณดังกล่าวตามที่กล่าวอ้าง จนเกิดความเสียหายรวมกว่าหลายล้านบาท โดยนำหลักฐานเป็นข้อความการสั่งซื้อและสลิปการโอนเงินมามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
น.ส.เจี๊ยบ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้พบเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า“จินา จิราพรรณ” โพสต์ประกาศขายทองในราคาต่ำกว่าทองตลาดนับครึ่งต่อครึ่ง โดยอ้างว่าเป็นทองรูปพรรณที่นำมาขายเป็นทองที่ซื้อต่อมาจากห้างทองชื่อดังแห่งหนึ่งที่เคยจัดโปรโมชั่นลดราคาจึงมีราคาถูกกว่าราคาปกติ จึงสนใจลองสั่งซื้อมา 1 เส้น เมื่อเห็นว่าได้รับของจริง จึงเกิดความคิดว่าสามารถทำกำไรได้ ตนจึงใช้ความเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่มีฐานลูกค้าเดิมอยู่เยอะ เปิดรับพรีออเดอร์สั่งทองจากเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวมาขายต่อได้ค่าส่วนต่างสลึงละ 1,000 บาท โดยทำมาตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และได้รับของมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อต้นเดือน พ.ย. ตนได้รับพรีออเดอร์จากลูกค้าจำนวนมากจึงได้สั่งซื้อทองรูปพรรณล็อตใหญ่ผ่านเพจดังกล่าวในมูลค่าราคารวมเกือบ 13 ล้านบาท ก่อนตกลงนัดรับของกันในช่วงปลายเดือน แต่เมื่อถึงกำหนดกลับปรากฏว่าไม่มีการส่งทองมาให้ เมื่อติดต่อกลับไปก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด ทั้งยังสร้างเรื่องแกล้งตายเพื่อหลบหนีความรับผิดชอบ แต่ก็ไม่มีใครหลงเชื่อ
น.ส.เจี๊ยบ กล่าวต่อมา ภายหลังถูกจับได้ว่าโกหกเรื่องแกล้งตาย เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวก็ได้พยายามเจรจาขอไกล่เกลี่ย โดยอ้างว่าจะรีบหาเงินมาคืนให้ แต่หากใครนำเรื่องไปแจ้งความจะไม่มีการคืนเงินให้ ก่อนจะเงียบหายไป ตนและผู้เสียหายคนอื่นๆจึงได้รวมตัวกันมายังกองปราบในวันนี้ เพื่อให้เร่งดำเนินคดีและอายัดบัญชีผู้ก่อเหตุ เพราะเกรงว่าหากปล่อยเวลาไปมากกว่านี้ทรัพย์สินที่ได้จากการหลอกลวงมาจะถูกยักย้ายถ่ายเท ทำให้การติดตามเงินกลับคืนมาทำได้ยาก อีกทั้งการที่ตนเข้ามาแจ้งความกับทางกองปราบในวันนี้ด้วยนั้นก็เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถึงแม้ตนจะเป็ฯผู้ค้าคนกลางแต่ตนไม่มีเจตนาโกงใครแน่นอน อีกทั้งก่อนหน้านี้ตนก็ได้ไปกู้ยืมเงินมานับล้านบาทเพื่อนำมาจ่ายชดเชยกับผู้เสียหายที่สั่งซื้อทองผ่านตนไปแล้วบางส่วน
“ยอมรับว่าหลังเกิดเรื่องค่อนข้างเป็นกังวลและเครียดหนักมากจนถึงขั้นเคยคิดจะดื่มยาพิษฆ่าตัวตายมาแล้ว เพราะตนเองก็ต้องถูกลูกค้าแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน”
ด้าน ร.ต.อ.ชนะชัย เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์พร้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่นำมาก่อนรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
นอกจากนี้วันเดียวกันยังมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนกว่า 50 คน ที่ถูก นายชนุตม์ สีสังข์ อายุ 44 ปี หรือ “ดร.เอ “ และน.ส.ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล หรือ “ดร.ลีเดีย”อายุ 41 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้หลอกให้นำเงินมาร่วมลงทุนค้าทองคำออนไลน์และการออมทองกับบริษัทโกลด์ ฟาเธอร์ 1978 จำกัด ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ เพื่อร้องขอให้ช่วยขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่นๆเพิ่มเติมอีก 6 คน ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่ทีมหรือแม่ข่าย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากภายหลังมีการจับกุมตัว ดร.เอ และ ดร.ลีเดีย เมื่อเดือน ต.ค.แล้วนั้น กลับไม่มีการเร่งรัดขยายผลเอาผิดหรือติดตามจับกุมแม่ทีมเหล่านี้เพิ่มเติม ทั้งๆที่แม่ทีมบางรายมีหมายจับติดตัวอยู่ก็ตาม