นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ‘Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง)‘ กล่าวถึงประเด็นที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้วิจารณ์ต่อกรณีนาฬิกาหรูของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการสัมภาษณ์กับนักข่าวบีบีซี ในสถานทูตที่ประเทศอังกฤษเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในภายหลังได้กล่าวขอโทษต่อทุกฝ่าย และยืนยันที่จะทำงานต่อ
ในประเด็นดังกล่าว นายกิตติรัตน์กล่าวว่า การพิจารณาลงโทษตัวเองด้วยการลาออก เป็นการพิจารณาด้วยจิตสำนึกของตนเองครับ ไม่ต้องฝึกอะไร ตนทำงานมา 30 กว่าปี จนอายุครบ 60 ปีสู่วัยเกษียณอายุในปีนี้ ตนเคยลาออกฯ ด้วยจิตสำนึก สองครั้ง ครั้งหนึ่งจากหน้าที่ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2549 เพราะบริษัทไทยขนาดใหญ่หันไปจดทะเบียนที่ตลาดฯ สิงคโปร์ และอีกครั้งจากหน้าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เมื่อปี 2552 เมื่อทีมชาติไทยพลาดโอกาสไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ตนพิจารณาว่าแม้จะได้ทำความสำเร็จ ความก้าวหน้าต่างๆ ไว้บ้าง แต่ “ผมก็ควรหน้าบาง และไม่ควรอยู่ต่อไป เมื่อทำให้ผู้คนและวงการ ต้องผิดหวัง” ตนจึงลาออก เพื่อเปิดทางให้คนที่มีความเหมาะสม มีความสามารถ เข้ามาทำแทน พึงจะเกิดประโยชน์กับวงการ และชาติบ้านเมือง
นายกิตติรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ขอบคุณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำให้ตนมีโอกาสได้ชี้แนะแก่คนรุ่นใหม่ได้บ้างว่า การพิจารณาลงโทษตนเองด้วยการลาออก แม้จะทำให้ตนเองต้องเจ็บปวดและยากลำบากเพียงใด แต่ย่อมจะดำรงไว้ซึ่งเกียรติและความภาคภูมิใจ ซึ่ง
“การตัดสินใจนั้น ใช้จิตสำนึกก็พอครับ ไม่ต้องฝึกอะไร… และต่อให้ฝึกมามาก แต่ไร้จิตสำนึก ก็ไม่มีประโยชน์” นายกิตติรัตน์ กล่าว