วันนี้ ( 11 ต.ค. ) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. น.กิ่งกาญจน์ หมื่นหาญ อายุ 38 ปี ภรรยาของนายศุภชัย อธิภาคย์ อายุ 45 ปี ผู้จัดการวิศวกรไฟฟ้าบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง พร้อมบุตรชาย และนายวรกร พงศ์ธนากุล เข้าพบ พ.ต.ท.ทรงพล หมอกกลั่น สว.สอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์ รพ.เอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังวินิจฉัยโรคผิดพลาด จากโรคหัวใจตีบเป็นโรคกระเพาะ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา สามีตนมีอาการเจ็บหน้าอกซ้ายและแขนซ้าย กล้ามเนื้ออ่อนแรง เหนื่อยและหายใจลำบาก คล้ายจะเป็นโรคหัวใจ จึงรีบไปให้หมอตรวจวินิจฉัยอาการที่ รพ.เอกชนย่านประชาชื่น เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอาการพร้อมซักประวัติแล้วก็ระบุว่า การที่สามีจุกเสียดแล้วเจ็บหน้าอกนั้นเป็นผลมาจากโรคกระเพาะอาหาร พร้อมจ่ายยาบรรเทาอาการและเฝ้าดูผู้ป่วยประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนแพทย์จะปล่อยให้กลับบ้านไป ทั้งที่อาการยังไม่ดีขึ้น แต่เนื่องจากแพทย์ได้ระบุอาการว่าเป็นโรคกระเพาะ ทั้งตนและสามีจึงสบายใจ ก่อนจะกลับในเวลาประมาณ 22.30น.
นางกิ่งกาญจน์ กล่าวต่อว่า เมื่อถึงบ้านเวลาประมาณ 23.00 น. แยกย้ายกันไปนอน แต่ซักพัก สามีก็มีอาการชักเกร็ง ตาเหลือและน้ำลายฟูมปาก ตนจึงเรียกลูกชายมาช่วยปั๊มหัวใจพร้อมโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนกู้ภัย แต่ก็ไม่ทันการณ์ สามีจึงเสียชีวิตไปในเวลา 00.00น. วันที่ 7 ตุลาคม ก่อนนำศพไปชันสูตรที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต โดยแพทย์ได้ระบุสาเหตุการตายเบื้องต้นมาจากเส้นเลือดหัวใจตีบ วันรุ่งขึ้นตนจึงไปติดต่อยังที่ รพ.ที่รักษาเพื่อไปขอเอกสารเวชระเบียน แต่ทาง รพ.อ้างว่าต้องใช้เวลา 7 วัน และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา
“สามี มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับเรื่องคอเลสตอรัล แต่ไม่เคยมีอาการเจ็บหน้าอกแบบนี้มาก่อน อีกทั้งยังได้ใช้บริการที่ รพ.นี้มานานนับ10 ปีแล้ว จึงเชื่อใจในหมอและโรงพยาบาล สำหรับการรักษานั้นก็ใช้ประกันกลุ่มของบริษัท ซึ่งสามีมีเงินเดือนกว่า 70,000บาท จึงไม่น่าเป็นปัญหา ขณะเดียวกัน เขายังเป็นเสาหลักของบ้าน ยังมีพ่อแม่และครอบครัวที่ยังต้องดูแล ไม่น่าจะจากไปเร็วด้วยอายุเพียง 45 ปี เช่นนี้” นางกิ่งกาญจน์ กล่าว
นายวรกร กล่าวว่าเบื้องจะแจ้งความดำเนินแพทย์ผู้วินิจฉัยในฐานความผิดกระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งได้นำเอกสารใบรับรองแพทย์ที่ระบุการวินิจฉัยอาการว่าสงสัยเป็นโรคกระเพาะ มาประกอบการพิจารณาด้วย
เบื้องต้น พ.ต.ท.ทรงพล สอบปากคำผู้เสียหายพร้อมตรวจสอบเอกสารหลักฐานก่อนรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป