วันนี้ 5 กย.พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ.สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 .ปอศ.พ.ต.ท.ภูงเดช จุลกะเสวี สว.กก.5.ปอศ.พร้อมกำลังจับกุมตัว น.ส.นภภัสสร มีบุญธรรม อายุ 42 ปี
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนเมษายน 2553 โดย นายจักรพันธ์ บุญศรี กับพวก ได้แจ้งความ ร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ว่าได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าตนเองเป็นหนี้บัตรเครดิต โดยมีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ด้านสินเชื่อบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ ออกอุบายให้หลงเชื่อว่ามีหนี้สินค้างชำระ และให้รีบไปดำเนินการทำรายการที่ตู้เอทีเอ็ม จนมาทราบภายหลังว่าเป็นการหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหา โดยความเสียหายทั้งหมด ประมาณ 861,971 บาท (แปดแสนหกหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยเจ็ดสิบเอ็ดบาท) ซึ่งในคดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม บก.ปอศ. ได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจนพบที่ตั้งของ Call center ที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหายตั้งอยู่ที่ เมืองฉางอัน เขตตงก่วน มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และ วันที่ 8 เมษายน 2553 ได้ประสานความร่วมมือกับตำรวจจีนเข้าตรวจค้น-จับกุม ผู้ต้องหาชาวไทย และชาวจีน รวม 15 คน โดยในการตรวจค้น-จับกุม ดังกล่าว พบว่ายังมีผู้ต้องหาชาวไทยรายอื่นๆ ที่ร่วมกระทำความผิด เพิ่มเติมอีกจำนวน 8 คน ซึ่งต่อมาได้ดำเนินการติดตามจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 7 คน คงเหลือ น.ส.นภภัสสร มีบุญธรรม ที่ยังคงหลบหนีอยู่
ต่อมา ในวันที่ 4 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.นภภัสสร มีบุญธรรมผู้ต้องหา ได้หลบหนีการจับกุม ไปที่ จ.สมุทรสาคร จึงได้ติดตามจับกุม นางสาวนภภัสสรฯ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2343/2553 ลง 19 ตุลาคม 2553 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันใช้บัตรอีเล็คทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอีเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือเบิกถอนเงินสด” โดยทำการจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนราษฎร์พัฒนา 6 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยนางสาววารุณีฯ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์จริง โดยหลอกลวงผู้เสียหายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด้านสินเชื่อบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ หลังจากนั้นจะมีผู้ต้องหารายอื่นที่ทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ สมอ้างเป็นเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ติดต่อผู้เสียหายต่อเพื่อสร้างสถานการณ์ให้สมจริง ก่อนจะให้ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์อีกรายติดต่อเพื่อแนะนำวิธีการทำรายการหน้าตู้เอทีเอ็ม โดยที่ผ่านมา น.ส.นภภัสสรฯ รู้ตัวเองมาโดยตลอดว่าตนเองอยู่ระหว่างถูกติดตามจับกุม จึงพยายามย้ายที่อยู่ และปกปิดข้อมูลส่วนตัว เพื่อให้ยากแก่การติดตามจับกุม หลังจากจับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. จึงได้ควบคุมตัว นางสาวนภภัสสร มีบุญธรรม ผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีต่อไป