ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (บช.ภ.5) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ปธ.บริหาร บมจ. อิตาเลียนไทยฯ และพวกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพยานหลักฐานทุกอย่างทางนิติวิทยาศาตร์ ทั้งปืน ดีเอ็นเอ ซากเสือ เนื้อ หนังที่พบ ตรวจสอบวิถีการยิง ในส่วนของเนื้อและหนังแม้ดูเบื้องต้นพบว่าเป็นเนื้อและหนังเสือ แต่ในส่วนการทำสำนวนคดี ต้องส่งพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเป็นหนัง และเนื้อเสือจริงหรือไม่ ในส่วนข้อหาเกี่ยวกับการเข้าป่า ล่าสัตว์นั้น ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานมากเพียงพอที่จะเอาผิด ส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องได้ ในกรณีที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครยิงสัตว์ แต่เจตนาที่นำอาวุธปืนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ส่วนข้อหาใหม่ติดสินบนเจ้าพนักงาน ก็มีการร้องทุกข์กล่าวโทษแก่ทั้ง 4คนแล้ว แต่รายละเอียดที่ว่าใครเป็นใครในเรื่องการให้สินบน อยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผยเรื่องนี้คดีอยู่ที่ บก.ปปป.
เมื่อถามว่ากรณีที่มีข่าวระบุว่านายเปรมชัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองทวายประเทศเมียนมาร์ รองผบ.ตร. กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูล แต่อย่างไรก็ตามสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรายงานหากพบการเดินทางเข้าออกผ่านแดนของนายเปรมชัยแต่อย่างไรก็ตามนายเปรมชัยได้รับการประกันตัวในชั้นศาลและการให้ประกันตัว ไม่ได้ระบุเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หากระหว่างนี้นายเปรมชัยจะเดินทางไปต่างประเทศก็เป็นสิทธิ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีเงื่อนไขหรือเหตุผลใดที่จะต้องยื่นศาลเพื่อถอนประกันโดยเหตุที่ว่าจะต้องเป็นในลักษณะการเข้าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานทำลายหลักฐานหรือข่มขู่พยานแต่ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยดังกล่าว คดีนี้ตำรวจได้ดำเนินการตามกระบวนการตั้งแต่การ สอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาฝากขังตรวจค้นบ้านสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องส่วนกระบวนการต่อไปก็ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนของสำนวนก็ต้องส่งให้อัยการและศาลต่อไปเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญทำคดีอย่างรัดกุมแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในวันครบกำหนดฝากขังครั้งที่หนึ่งที่นายเปรมชัยจะต้องมารายงานตัวต่อศาลซึ่งเป็นเวลา 12 วันนับแต่วันครบผัดฟ้อง ครั้งแรก จะพิจารณาเรียกนายเปรมชัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันเดียวกัน ในส่วนของคดี ฐานบุกรุกป่าล่าสัตว์นั้นวันนี้พนักงานสอบสวนเชิญผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานมาสอบปากคำรวม 4นาย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันอีกครั้งว่าข่าวที่เสนอไปว่าตนจะดำเนินคดีกับนายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เกี่ยวกับการไม่เก็บค่าธรรมเนียมนั้นไม่เป็นความจริงสื่อมวลชนบางส่วนเสนอขาวคลาดเคลื่อน ในกรณีนี้เป็น ประเด็นของการอนุญาตให้เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งการพิจารณาเป็นเรื่องภายในของกรมอุทยานฯที่ตำรวจไม่ก้าวล่วง หากกรมอุทยานพิจารณาจะดำเนินการอย่างไร หากเกี่ยวข้องกับตำรวจก็คงส่งเรื่องมาภายหลัง เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในตนไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้