ให้ตั้งกรรมการสงฆ์ธรรมยุตสอบ “พระโพธิญาณมุนี” วัดป่ามัชฌิมาวาส สาวผู้เสียหายยันมีหลักฐานสำคัญ บอกได้จุดตำหนิลับในร่างกายอยู่ตรงไหน รับไม่ได้กับพฤติกรรมลวงชาวบ้านว่าเป็นพระดี หลังออกมาร้องเรียนเจ้าคณะปกครอง แต่กลับถูกทางวัดฟ้องศาลกล่าวหาว่ากรรโชกทรัพย์ สุดท้ายศาลฎีกายกฟ้องเธอชนะคดี
วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) พุทธมณฑล จ.นครปฐม น.ส.โสมณุดา สัมมานุช อายุ 35 ปี ได้เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. เพื่อขอให้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการสอบสวนพระโพธิญาณมุนี วิ. (เมือง พลวัฑโฒ) เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีนายวีระสิทธิ หลงเจริญ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เป็นผู้รับหนังสือ
น.ส.โสมณุดา กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้เคยร้องเรียนเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ให้ดำเนินการตรวจสอบพระโพธิญาณมุนี ว่ามีการเสพเมถุนกับสีกามาแล้ว ซึ่งตนเป็นผู้เสียหาย แต่กลับถูกทางวัดมัชฌิมาวาส ยื่นฟ้องศาลกล่าวหาว่าการดำเนินการของตนเป็นการกระทำเพื่อกรรโชกทรัพย์จากทางวัด และความผิดว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทางคณะสงฆ์ จ.กาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ยังไม่ได้มีการดำเนินการสอบสวนทางพระธรรมวินัย เพราะต้องให้คดีทางโลกสิ้นสุดลงก่อน จึงจะสามารดำเนินการสอบสวนทางพระธรรมวินัยต่อได้ โดยทั้ง 2 คดีดังกล่าว ตนได้ต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริงจนถึงชั้นศาลฎีกาและศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง เท่ากับว่าคดีทางโลกระหว่างตนกับทางพระโพธิญาณมุนีได้สิ้นสุดลงแล้ว จึงมายื่นหนังสือต่อ ผอ.พศ. เพื่อขอให้ติดตามการดำเนินการทางวินัยสงฆ์ต่อไปด้วย และขอให้ตรวจสอบบัญชีการเงินของวัด เส้นทางการใช้เงินของพระโพธิญาณมุนี โดยหลังจากนี้ตนจะไปยื่นหนังสือยังเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธรรมยุต) และเจ้าคณะภาค 9 (ธรรมยุต) ต่อไป
น.ส.โสมณุดา กล่าวต่อไปว่า มีผู้หญิงที่ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับตนอีกประมาณ 5 คน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้ เพราะเกรงกลัวอิทธิพล เมื่อเห็นว่าตนได้ถูกฟ้องถูกดำเนินคดีหลายข้อหา ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเป็นเรื่องจริง ตนสามารถบอกได้เลยว่าร่างกายของพระโพธิญาณมุนี มีจุดตำหนิอยู่ตรงไหนบ้างในที่ลับ เหตุการณ์ที่เกิดกับตนเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 พระโพธิญาณมุนี ได้โทรศัพท์ให้ตนนำยาแก้แพ้ไปให้ที่กุฏิ ด้วยความที่ครอบครัวตนศรัทธาพระโพธิญาณมุนีกันทั้งครอบครัว อีกทั้งตนก็มาทำบุญที่วัดนี้ตั้งแต่ยังเด็กจึงไม่คิดอะไร นำยาไปให้ จากนั้นพระโพธิญาณมุนีก็ให้กินน้ำ กินช็อคโกแลต และใช้กำลังบังคับตนจนสำเร็จความใคร่ สังคมอาจจะไม่เชื่อว่าพระสงฆ์ที่มีอายุกว่า 60 ปี จะมีกำลังมากขนาดนั้น แต่ยืนยันว่าพระโพธิญาณมุนี มีร่างกายที่แข็งแรง ร่างสูงใหญ่ หลังจากเกิดเหตุขึ้นมาตนรู้สึกเสียใจมาก สับสนคิดอะไรไม่ออกและไม่คิดว่าพระสงฆ์ที่ชาวบ้านศรัทธาว่าเป็นพระอรหันต์ พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะมีพฤติกรรมแบบนี้ แสดงว่าที่ผ่านมาพระโพธิญาณมุนีโกหกชาวบ้านมาตลอดว่าเป็นพระดี จึงต้องการออกมาเปิดเผยความจริงให้สังคมได้รับรู้ นอกจากนี้ขอให้มีการตรวจสอบการเงินของวัดมัชฌิมาวาสด้วย เนื่องจากทราบว่าเงินที่ได้รับจากการทอดกฐินตกถึงปีละกว่า 30-60 ล้านบาท และทางวัดมีการใช้เงินจำนวนมากเพื่อมาดำเนินคดีกับตนได้หลายปี