วันนี้ วันพุธที่ 31 ก.ค.62 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานใหญ่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ถนนงามวงศ์วาน กทม. : การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จับมือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ยกเครื่องรถขนส่งไปรษณีย์ หันมาใช้รถ EV แทน เผยต้นทุนพลังงานแค่ กม.ละ 0.50 บาท ตีปิ๊บเรียกค่ายรถมาทดสอบคุณภาพ 2 เดือน ก่อนเคาะประมูล
นายจรัญ บุญยะคงรัตน์ ผอ.กองส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก โครงการความร่วมมือระหว่าง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กับ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ที่เซ็นต์ MOU ร่วมกัน ศึกษาวิจัยด้านการประหยัดพลังงาน ของ บริษัทไปรษณีย์ไทย ใน 3 แนวทางคือ 1.ประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในสำนักงานไปรษณีย์ 2.นำพลังงานสะอาดคือ โซล่าร์เซลมาติดตั้งใข้งาน และ 3.ต้องการได้รถประหยัดพลังงาน หรือรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ในการขนส่งในกิจการไปรษณีย์
เหตุจากปัจจุบัน ปณท. มีสาขามากกว่า 1 พันสาขาทั่วประเทศ จำเป็นต้องใช้รถจำนวนมาก มีรถยนต์มากกว่า 3 พันคัน และมอเตอไซต์มากกว่า 1 หมื่นคัน และจากการที่มีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเติบโตของ อีคอมเมิร์ซ ที่ซื้อขายผ่านไปรษณีย์ ทาง ปณท. จึงมีความต้องการใข้รถมากขึ้น และมองไปที่การประหยัดพลังงานด้วย ทาง กฟภ. จึงได้คัดเลือกหารถที่มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ตามที่ ปณท. ต้องการ
ปรากฎว่า บริษัท แอดวานซ์ เพาเวอร์เทค จำกัด มีรถยนต์ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียง จึงได้ให้นำรถมาทำการทดสอบ ในเบื้องต้นคุณภาพถือว่าอยู่ในเกณฑ์ และจะมีการทดสอบต่อไปอีก 2 เดือน จนกว่าจะแน่ใจว่า สามารถใช้งานกับกิจการไปรษณีย์ได้จริง ถูกต้องตามแนวคิดประหยัดและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งหลังจากทดสอบแล้วเสร็จ ก็จะทำการประมูลจัดซื้อจัดจ้างต่อไปตามระเบียบราชการ
“การที่ต้องการให้มีการทดสอบรถไฟฟ้าในครั้งนี้ เพราะต้องให้สังคมได้ทราบว่า รถยนต์ไฟฟ้า สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งปัจจุบันคนยังไม่ค่อยมั่นใจ และทาง กฟภ.เอง ได้ทำโครงการนำร่องมาก่อนแล้ว โดยมีรถบัสไฟฟ้า ใช้ขนส่งพนักงาน 2 คัน และมีปั๊มเติมไฟฟ้า ซึ่งประชาชนที่ใช้รถไฟฟ้า สามารถเข้ามาเติมที่นี่ได้ อยากบอกว่า รถยนต์ไฟฟ้า ใข้งานได้จริง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัด มีค่าใข้จ่ายด้านพลังงานเพียง กม.ละ 0.50 บาท เท่านั้น” นายจรัญ กล่าว
นายสมนึก วิทยารักษ์สรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.แอดวานซ์ เพาเวอร์เทค จำกัด กล่าวว่า ตามโครงการนี้ บริษัทได้นำเสนอ รถตู้ขนส่ง EV ตามสเป็คที่ไปรษณีย์ไทยต้องการใช้ขนส่งวัสดุ โดยเป็นรถใช้มอเตอร์ขนาด 49 KW ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ 300 กม. สามารถชาร์จได้ทั้งแบบทั่วไปคือ 10 ชม.เต็ม ชาร์จเร็ว 6 ชม. และชาร์จด่วน 1.30 ชม. รับน้ำหนักขนส่งวัสดุได้ 500 ก.ก. ทำความเร็วได้ 90 กม./ชม. อัตราค่าพลังงาน 0.50 บาท/กม. สามารถวิ่งบนถนนน้ำท่วมได้ไม่เกิน 60 ซ.ม. และยังรับประกันแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปี
การนำเสนอครั้งนี้ ทาง ไปรษณีย์ไทย สามารถซื้อ หรือ เช่า ก็ได้ ถ้ายังไม่แน่ใจก็เช่าไปก่อน สัญญาเช่าจะครอบคลุมถึง การประกันภัย การซ่อมบำรุง และสามารถเปลี่ยนรถได้ภายใน 24 ชม. ถ้านอกเขต กทม.ระยะทางเกินกว่า 300 กม. เปลี่ยนได้ภายใน 48 ชม. รวมทั้งสามารถหักค่าเช่า ในวันที่ไม่สามารถทำการขนส่งได้อีกด้วย
นายสมนึกฯ กล่าวอีกว่า รถ EV ที่นำมาเสนอเจ้าหน้าที่ของทั้ง กฟภ. และไปรษณีย์ไทย เคยเดินทางไปดูการทดสอบที่ประเทศจีนมาแล้ว ซึ่งการทดสอบผ่านทั้งการวิ่งในน้ำระดับลึก 60 ซ.ม. วิ่งผ่านถนนขรุขระ ทดสอบการบรรทุกขนส่ง ต่างๆ อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านการทดสอบขั้นตอนของไทย รวมถึง กรมขนส่งทางบก ด้วย พร้อมกันนี้ ตนยังได้แนะนำสถาบันการเงินของกระทรวงการคลังจีน คือ บ.ซิโนชัวร์ และ บ.คอมแพลนต์ บริษัทรับเหมาก่อสร้างใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ต่อ นายศรัณย์พงศ์ อาชว์สุนทร รองผู้ว่าฯกฟภ. และนายเลิศชาย แก้ววิเชียร ผู้ช่วยผู้ว่าฯกฟภ.อีกด้วย