“4 เหล่า”พร้อมสนองนโยบายรัฐบาลใหม่ ย้ำอุทิศตนทำงานหนักเพื่อประชาชน
เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, นายตำรวจระดับสูง ให้การต้อนรับ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5/62 ซึ่งมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพการประชุม
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมผู้บัญชาการตำรวจแห่งขาติเดินตรวจแถวกองเกียรติยศจากนั้นทำพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ ถวายสักการะอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 บริเวณหน้าอาคาร 1 ตร. ก่อนจะเข้าร่วมการประชุมโดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ เข้าร่วมการประชุมโดยภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงและทีมโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทยจะแถลงผลการประชุมและตอบข้อซักถามสื่อมวลชน ในเวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุมศรียานนท์
สำหรับมาตรการรักษาควาปลอดภัยในการจัดประชุมครั้งนี้เป็นไปอย่างเข้มงวดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตรวจความปลอดภัยบริเวณภายในและรอบนอก ซักซ้อมการปฎิบัติ ขณะสื่อมวลชนที่จะเข้าทำข่าวเจ้าหน้าที่ได้จัดจุดลงทะเบียน,ตรวจกล้องสำหรับบันทึกภาพ, รวมถึงจัดพื้นที่ให้บันทึกภาพบริเวณจุดเดียวกันเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาติดราชการ,ตรวจประวัติอาชญากร จะต้องผ่านการตรวจกระเป๋าและแลกบัตรเข้า-ออก โดยจะมีตำรวจสันติบาลประจำคอยดูแลทุกประตูทางเข้าเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์
โดยภายหลังประชุมพล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงผลการประชุมว่า ในที่ประชุมผู้บัญชาการทั้ง 4 เหล่าทัพจะดำเนินการร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสนองนโยบายใหม่ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี โดยทุกเหล่าทัพ จะอุทิศตนทำงานอย่างหนักให้เป็นที่พึ่งของประชาชน
โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ยังกล่าวด้วยว่าทุกเหล่าทัพจะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ โดยกองทัพอากาศได้จัดตั้งศูนย์ติดตามและสั่งการแก้ไขปัญหาสถานการณ์เพื่อกำกับดูแลในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้และจัดตั้งกองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9 ขึ้นควบคุมทางยุทธการกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า(กอร.มน.ภาค4) โดยใช้กำลังปฎิบัติการทางอากาศ อาทิ เครื่องบินโจมตี,เครื่องบินลาดตระเวณทางอากาศ ,การปฎิบัติการบินถ่ายทอดสัญญาณวิดิโอและการใช้กำลังปฎิบัติการทางภาคพื้นและใช้กำลังปฎิบัติการตามกลยุทธ์ปฎิบัติภารกิจด้านการข่าวอย่างเข้มข้น
นอกจากนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วมของกองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมการสื่อสารทหารได้หารือร่วมกับเหล่าทัพ เพื่อบูรณาการและแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีร่วม ประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงคือพัฒนาจากความต้องการทางยุทธการและตอบสนองต่อการปฎิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางที่แท้จริง รวมไปถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศบนพื้นฐานหลักการพึ่งพาตนเอง เพื่อสนับสนุนปฎิบัติการร่วมตามแนวคิดที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีตามกรอบแนวคิดไทยแลนด์ 4.0 ด้วย
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังได้กล่าวขอบคุณ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เข้าร่วมการประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน และขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมในครั้งนี้