วันนี้ วันพุธที่ 26 มิ.ย.62 เวลา 14.00 น.ณ ลานแถลงข่าว ชั้น 1 อาคาร บช.น. พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.),พลตำรวจตรี สุคณ พรหมายน,พลตำรวจตรี นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.),พลตำรวจตรี มงคล วรุณโณ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) และ พลตำรวจตรี อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.)
ร่วมแถลงข่าวการขยายผลการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางนา ขยายผลการจับกุมคดีกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บในพื้นที่สน.บางนา โดยเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.62 ระหว่างเวลาประมาณ 09.30 น. ถึงเวลาประมาณ 11.00 น.ได้มีเหตุกลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง 2 ฝ่ายก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างฝ่ายวินรถจักรยานยนต์รับจ้างจุดซอยอุดมสุข 1 ซึ่งมีนายประมุข วิเชียรดิลกกุล เป็นหัวหน้าวิน กับฝ่ายวินรถจักรยานยนต์ หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมีนายทนง เกิดแก้ว เป็นหัวหน้าวิน และมีการใช้อาวุธรุมทำร้ายกัน เป็นเหตุให้มีผู้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตโดยจากการสืบสวนพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีจุดเกิดเหตุที่เกี่ยวข้องกันตามลำดับเวลา รวม 5 จุด ดังนี้
1.ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 08.41 น. บริเวณปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถนนอุดมสุข แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ กลุ่มวินรถจักรยานยนต์ของนายประมุขฯ ได้นัดรวมตัวกัน รวมจำนวน 16 คน
2.ช่วงเวลาประมาณ 10.44 น.ที่บริเวณปากซอยถนนอุดมสุข 1 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ เป็นจุดที่กลุ่มวินรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 ฝ่าย ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน โดยใช้กระบอง ท่อนไม้ มีด ขวาน และค้อน เป็นอาวุธ โดยจุดนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสองฝ่าย รวม 31 คน (ฝ่ายนายประมุขฯ 21 คน,ฝ่ายนายทนงฯ 10 คน)
3.ช่วงเวลาประมาณ 10.50 น.บริเวณหน้าร้าน จ.รุ่งเรือง หลังตลาดอุดมสุข ซอยอุดมสุข 2 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ เป็นจุดที่นายประมุขฯ ถูกกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ของ นายทนงฯ จำนวน 15 คน รุมทำร้ายร่ายกายโดยมีท่อนไม้ ท่อนเหล็ก และค้อน เป็นอาวุธ เป็นเหตุให้นายประมุขฯ ได้รับบาดเจ็บ
4.ช่วงเวลาประมาณ 10.54 น.ถึงเวลาประมาณ 11.20 น.บริเวณภัทราอพาร์ทเม้นท์ หลังตลาดอุดมสุข ซอยอุดมสุข 2 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ คือจุดที่กลุ่มวินรถจักรยานยนต์ทั้งสองวินใช้เป็นเส้นทางในการเดินผ่านเข้า-ออก ไปยังชุมชนรุ่งเรืองเพื่อก่อเหตุ
5. ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.บริเวณหน้าปากซอยไปดีมาดี ชุมชนรุ่งเรือง แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ กลุ่มวินจักรยานยนต์ของนายประมุขฯ ได้ติดตามมาทำร้ายกลุ่มของนายทนงฯ ซึ่งหลบเข้าไปภายในชุมชนรุ่งเรือง โดยใช้ไม้ กระบอง หิน ท่อนไม้ และอาวุธปืน เป็นอาวุธ ซึ่งบริเวณนี้คือจุดที่นายวันชัย หรืออ้ำ มงคลเข็ม (กลุ่มนายประมุขฯ) ใช้อาวุธปืน ยิงเข้าไปภายในชุมชนฯ หลายนัด เป็นเหตุให้ นายวีรวัฒน์ หรือกานต์ พึ่งครุฑ เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 3 ราย ในบริเวณนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย รวม 27 คน
สาเหตุ เกิดจากวินจักรยานยนต์ซึ่งมี นายทนง เกิดแก้ว เป็นหัวหน้า ตั้งอยู่บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ปากซอยอุดมสุข ซึ่งเป็นวินที่ไม่ได้รับอนุญาตถูกต้องส่วนวินรถจักรยานยนต์ ซอยอุดมสุข 1 ซึ่งมีนายประมุข วิเชียรดิลกกุล เป็นหัวหน้าวิน ได้รับอนุญาตถูกต้องซึ่งผู้ที่จะเข้ามาขับวินของ นายประมุขฯ จะต้องเสียค่าเข้าร่วมวิ่งเป็นเงิน 3,500 บาท และค่าเสื้อวินเดือนละ 3,000 บาท ส่วนวิน ของนายทนงฯ ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดซึ่งวินของนายทนงฯ จะมีผู้โดยสารมากกว่าเนื่องจากประชาชนที่ใช้บริการ ถ้าลงมาจากสถานีรถไฟฟ้าอุดมสุขเดินมาตามถนนอุดมสุขจะพบกับวิน ของนายทนงฯ ก่อน เป็นเหตุให้นายประมุขฯ ไม่พอใจและไม่ต้องการให้วินของนายทนงฯ มาวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารบริเวณดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุนายประมุขฯ กับพวกได้วางแผนในการก่อเหตุโดยได้สั่งซื้อกระบอกยาง จากประเทศจีนโดยสั่งผ่านทางอินเตอร์เน็ต มาก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 เดือน และนัดหมายกลุ่มจักรยานยนต์ในวินของตนเพื่อรวมตัวกันไปก่อกวนวินของนายทนงฯ เพื่อไม่ให้สามารถวิ่ง รับ-ส่งผู้โดยสารได้อีกต่อไปจนเป็นเหตุให้เกิดทะเลาะวิวาทกันส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
สรุปจำนวนผู้เข้าร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 127 คน
– ฝ่ายนายประมุขฯ จำนวน 84 คน (พิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ 37คน) ที่เหลืออยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ
– ฝ่ายนายทนงฯ จำนวน 43 คน (พิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ 21คน) ที่เหลืออยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ
สรุปผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จำนวน 6 ราย
-ผู้เสียชีวิต 1 ราย
1. นายวีรวัฒน์ หรือกานต์ พึ่งครุฑ อายุ20ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะ (ฝ่าย นายทนงฯ)
-ผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
ฝ่ายนายประมุข
1. นายประมุข วิเชียรดิลกกุล อายุ 44 ปี ถูกทำร้ายตามร่างกาย
2. นายวัชรินทร์ หรือกอล์ฟ งาเฉลา อายุ 33 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะ
ฝ่ายนายทนงฯ
1. นายประเสริฐ หรือพงษ์ จำเริญพงษ์รัศมี อายุ 28 ปี ถูกทำร้ายตามร่างกาย
2. นายกฤตธน ศรีบุญมี อายุ 34 ปี ถูกฟันบริเวณศีรษะ (ฝ่าย นายทนงฯ)
3. นายวุฒิชัย หรือเบนซ์ เทศเขียว อายุ 27 ปี ถูกยิงบริเวณใบหู (ฝ่าย นายทนงฯ)
สิ่งของที่ตรวจยึด
1.อาวุธปืน ขนาด .45 หมายเลขทะเบียน พช.4/4011 ไม่ปรากฏหมายเลขประจำปืน จำนวน 1 กระบอก(ตรวจยึดจากนายเจริญฯ) ฝ่ายนายทนงฯ
2. อาวุธมีด 1 เล่ม ฝ่ายนายทนงฯ
3. กระบอกยาง ยาวประมาณ 47 นิ้ว จำนวน 31 อัน ฝ่ายนายประมุขฯ
สิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว
1. ออกหมายจับ ผู้ต้องหา รวม 19 หมาย แบ่งตามฐานความผิดดังนี้
1.1 ความผิด “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมืองฯ,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปฯ,ซ่องโจร”จำนวน 7 รายจับกุมแล้ว 7 ราย ดังนี้ 1.นายวันชัย หรืออั้ม มงคลเข็ม 2.นายจีระพงษ์ หรือเบส วิบูลย์รัชกิจ 3.นายมานพ หรือเบียร์ มิ่งมงคล 4.นายปิยะ หรือหมู พวงเกสร 5.นายรังสรรค์ หรือเอ๊กซ์ ศรไชยากร 6.นายประมุข หรือมุข วิเชียรดิลกกุล 7.นายพันธ์ศักดิ์ หรือตั้ม พละทรัพย์
1.2 ความผิด “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมืองฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปฯ , ซ่องโจร” จำนวน 7 รายจับกุมแล้ว 6 ราย ดังนี้ 1.นายสุวัฒน์ หรือใหม่ พงษ์มหันต์ 2. นายกิตติศักดิ์ หรือทวย รินรักษา 3. นายสัญชัยหรือบาส สุริยะไชย 4. นายนิวัฒน์ หรือใบ มาแก้ว5. นายทวีเกียรติ หรืออาร์ม สุทธิสนอง 6. นายวรวุฒิ หรือบิว เทศเขียว (นายฉัตรตระการ หรือมัส รื่นพิทักษ์ อยู่ระหว่างติดตามจับกุม)
1.3 ความผิด “ซ่องโจร,ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมืองฯ,มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปฯ” จำนวน 5 รายจับกุมแล้ว 5 ราย ดังนี้ 1. นายวุฒิชัย หรือเบณซ์ เทศเขียว 2. นายธงชัย หรือบิ๊ก บุญกล่ำ 3. นายทวีสิทธิ์ หรืออม สุทธิสนอง 4. นายมงคล หรือเป้ บุญกล่ำ 5. นายทนง หรือนง แก้วเกิด
2. จับกุม นายเจริญ หรือต่อ เจริญผล ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด .45 มม. (มีทะเบียน) จำนวน 1 กระบอก (จับกุมได้ในวันเกิดเหตุ)
3. ขอหมายค้น เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายจำนวน 6 หลัง ผลการตรวจค้นไม่พบวัตถุพยานหรือสิ่งผิดกฎหมาย
4. ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักกฐานเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดต่อไป
ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.