เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการงตำรวจ(ผบช.สง.ก.ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีโซเชียลมิเดียมีการเผยแพร่คำสั่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯรมว.กลาโหม เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผบช.สตม. เป็นอนุกรรมการ ก.ตร.
พล.ต.ท.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ ผบช.สง.ก.ตร. กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการทำหน้าที่ของประธานคณะอนุกรรมการ ก.ตร.ทั้ง 7 คณะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมอบหมายให้ จเรตำรวจแห่งชาติ และ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน และมอบหมายให้ประธานไปพิจารณาตัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งในคณะอนุกรรมการ ก.ตร. นั้นๆ ซึ่งประธานแต่ละคณะจะคัดเลือกกรรมการในแต่ละชุด ซึ่งคณะอนุกรรมการ ก.ตร.แต่ละชุด มีหน้าที่ในการพิจารณา ประเด็นต่างๆ เพื่อส่งต่อไปยัง ก.ตร.ชุดใหญ่มีความเห็นชอบตามขั้นตอน
ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านกฎหมายและระเบียบ กล่าวว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ อยู่ในคณะอนุกรรมการ ก.ตร. ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันรวม 4 สมัย ถือว่าเป็นตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเข้าหลักเกณฑ์ในการคัดสรรบุคคล มาดำรงตำแหน่งในคณะอนุกรรมการชุดนี้ ยืนยันว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็น อนุกรรมการ ก.ตร.กฏหมายชุดนี้ มาแล้ว 4 ครั้ง จึงเห็นว่าควรให้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง ยืนยัน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มีความรู้ความสามารถ เพราะดำรงตำแหน่งมาหลายสมัย โดยส่วนตัวฐานะประธานฯ จะไม่เสนอถอดชื่อออก แต่ทั้งนี้ ให้เป็นอำนาจของประธาน ก.ตร.พิจารณา ตามความเหมาะสม