นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ในฐานะนักเคลื่อนไหวทางสังคม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” แสดงความคิดเห็นทางการเมืองถึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดังนี้
ถึงพรรคประชาธิปัตย์บนทางสองแพร่ง
พรรคประชาธิปัตย์ในยุคสมัยเริ่มต้นของนายหัวจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ จะไปทางไหน อันนี้น่าสนใจมาก เพราะเลือกทางผิดอนาคตอาจเป็นพรรคต่ำสิบได้ในอนาคตอันใกล้
ดูอย่างสงขลาบ้านผม ที่เป็นพื้นที่สีฟ้าของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาแซะได้ แต่รอบนี้ก็เหลือเพียง 3 จาก 8 ที่นั่ง ส่วนในกรุงเทพนั้นสูญพันธุ์
การเลือกตั้งรอบนี้ชัดเจนว่า ในภาคใต้นั้น คนวัยกลางคน คนสูงอายุ ส่วนใหญ่หนุนพรรคพลังประชารัฐ ส่วนคนรุ่นใหม่นั้นหนุนพรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคประชาธิปัตย์เจ้าของพื้นที่นั้น เนื่องจากจุดยืนไม่ชัดเจน และยังส่งเสาไฟฟ้า สส.เก่าที่ไร้บทบาทมานานลงสนามอีก จึงสอบตกกันเป็นแถว
แม้ผมไม่เป็นสมาชิกพรรค แต่ผมก็อยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ยืนหยัดบนวิถีการเมืองที่สง่างาม ยืนยันอุดมการณ์ตามชื่อคือประชาธิปไตย ไม่รับในอำนาจของเผด็จการ คสช.ที่กำลังแปลงร่างมาด้วยกติกาที่เขียนเองอย่างฉ้อฉล
หากพรรคประชาธิปัตย์คิดสั้นๆ ก็ไม่ยาก เข้าร่วมสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐตั้งรัฐบาล ซึ่งก็น่าจะถูกใจคนรุ่นเก่า แต่ที่ว่าคิดสั้นเพราะคนรุ่นใหม่ในภาคใต้ก็จะได้เลิกหวังเลิกเชียร์พรรคสีฟ้านี้เสียที ไปหนุนพรรคอนาคตใหม่ให้เต็มๆ
คนวัยกลางคนและวัยสูงอายุจะค่อยๆลดลง คนรุ่นใหม่จะเติบโตก้าวขึ้นมาแทนที่ปีละ 6-7 แสนคน สิบปีก็ร่วม 6-7 ล้านคน เสียงของคนรุ่นใหม่จึงมีพลังขึ้นเรื่อยๆ พรรคสีฟ้าจะเมินเฉยหรือ
แต่หากพรรคประชาธิปัตย์คิดถึงการยืนระยะยาวๆ ก็ต้องปฏิเสธไม่เข้าร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะคนรุ่นใหม่เขาไม่เอาการสานต่ออำนาจเผด็จการ ครม.หน้าเดิมๆ 5 ปีนั้นพอแล้ว หากประชาธิปัตย์ยืนข้างพรรคปีกประชาธิปไตย ผมว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังมีโอกาสที่จะกลับมารับใช้พี่น้องคนใต้และคนไทยกันยาวๆ
รอดูครับว่า พรรคประชาธิปัตย์จะคิดสั้นหรือคิดยาว