เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสสร์ ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรช่วงเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา (ภาคต้น) โดยมีพล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงาน ยุทธศาสตร์ตำรว (ผบช.สยศ.) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับผู้การบังคับการ จนถึง รองผู้บังคับการ ของบก.จร. และ บก.น.1-9 รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการจราจรถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความห่วงใยในปัญหาการจราจรติดจัดช่วงเปิดภาคเรียน การประชุมครั้งนี้เป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรทั้งระบบทั้งทางกายภาพและทางเทคโนโลยีในเรื่องของการกดสัญญาไฟ โดยได้แบ่งเป็น 4 หัวข้อสั่งการ
1. การแก้ไขปัญหาการเปิดสัญญา
2.การแก้ไขปัญหาการจราจรในช่วงเวลาเปิดภาคเรียน
3.การคืนพื้นผิวการจราจรตามแนวรถไฟฟ้า
4.การใช้พื้นที่จอดรถไม่ให้กระทบการจราจร
โดยจะมีโรงเรียนที่จะเปิดภาคเรียนดังนี้
1. โรงเรียนอาชีวะเอกชน จะเปิดวันที่ 13 พฤษภาคม
2. โรงเรียนอาชีวะของรัฐเปิดวันที่ 13-16 พฤษภาคม แล้วแต่ทางโรงเรียนจะกำหนด
3. โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) เปิดวันที่ 13-16 พฤษภาคม
4. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เปิดวันที่ 15 พฤษภาคม
5. โรงเรียนในระดับอุดมศึกษาและมหาวิทยาลัยจะเปิดในช่วงเดือนสิงหาคม
6. มหาวิทยาลัยราชภัฏจะเปิดช่วงเดือนมิถุนายน
ซึ่งได้มีการประสานไปยังสถานศึกษาต่างๆ ในดูแลเรื่องความสะดวกหน้าจุดจอดสถานศึกษานั้น
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ ยังได้เปิดเผยว่าภายหลังการประชุมอีกว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กรมการขนส่งทางบก กรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ที่จะเริ่มทยอยเปิดภาคเรียนของสถานศึกษาแล้วบางส่วน และจะมีการเปิดภาคเรียนมากที่สุด ในช่วงวันที่ 13-16 พฤษภาคม พร้อมเน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรทั้งระบบในช่วงเปิดเทอม โดยเบื้องต้น จะเร่งรัดคืนพื้นผิวการจราจรในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าให้มากที่สุด รวมทั้ง ให้ประสานผู้ประกอบการบริษัทขนส่ง มาทำความเข้าใจ กำชับไม่ให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ สัญจรในเวลาห้ามอย่างเด็ดขาด ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ สร้างผลกระทบการจราจรในภาพรวม พร้อมให้ตำรวจแต่ละพื้นที่ เข้าไปปฐมนิเทศผู้ปกครองถึงเส้นทาง และจุดรับ-ส่ง ลดปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึง ประสานสถานศึกษา จัดโครงการในลักษณะพี่รับน้อง หรือผู้ปกครองอาสา รวมถึง จิตอาสาจราจร ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับเด็กเล็กลงจากรถโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะ 3 กลุ่มเส้นทางที่มักมีปัญหาจราจรหน้าสถานศึกษา ได้แก่ กลุ่มที่ 1 สามเสน ราชวิถี นครราชสีมา กลุ่มที่ 2 ถนนอโศก เพลินจิต สุขุมวิท และกลุ่มที่ 3 สีลม สาทร เจริญกรุง
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เปิดเผยว่า สถานศึกษาที่อยู่ในซอยแคบ มักมีปัญหาจราจรมาก ซึ่งได้เน้นย้ำ ระบายรถไม่ให้กระทบถนนสายหลัก โดยให้แต่ละพื้นที่แก้ปัญหาให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ พร้อมสั่งระดมกำลังตำรวจจราจรเต็มที่ช่วงเดือนแรกของการเปิดภาคเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองคุ้นเคยกับระบบบริหารจัดการจราจร