ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายตะวัน จารุจินดา หรือ เติ้ล ดารานักแสดงชื่อดัง และ น.ส.เสาวคนธ์ จารุจินดา ภรรยา พร้อมด้วย น.ส.วรินดา ดํารงผล หรือ ดีเจดาด้า,น.ส.กัญดา ศรีธรรมนูปถัมภ์ หรือ ดีเจแนน,นายพิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์ หรือ ดีเจอาร์ม และกลุ่มผู้เสียหายจำนวนกว่า 20 คน
เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโท หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สารวัตรสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (สว.สอบสวน กก.1 บก.ป.) เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายยุทธนา ธรรมพรต หลังถูกหลอกให้โอนเงินค่าซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวต่างประเทศ แต่กลับไม่ได้รับตั๋วเครื่องบินตามที่ตกลงกันไว้ จนสูญเสียเงินรวมกว่า 30 ล้านบาท
นายตะวันฯ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเริ่มจากก่อนหน้านี้ตนอยากพาลูกสาวไปเที่ยวต่างประเทศเป็นทริปแรก โดยไปกันทั้งครอบครัวจารุจินดา ซึ่งน้องสาวตนก็แนะนำว่าให้ลองซื้อตั๋วกับนายยุทธนาฯ เพราะเห็นว่ามีราคาถูกกว่าทั่วไป ทั้งยังมีคนเคยไปได้จริง ตอนแรกก็มีแอบสงสัยเหมือนกันเพราะเห็นว่าราคาค่อนข้างถูกมาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เนื่องจากมีคนยืนยันหลายคนว่าบินได้จริงๆ ก็เลยสั่งจองไป 4 ที่นั่ง พร้อมกับโอนเงินค่าตั๋วให้ทั้งหมดประมาณ 8 หมื่นบาท โดยมีกำหนดเดินทางวันที่ 13 พ.ค.62 แต่พอตอนหลังเริ่มแปลกใจเพราะวันที่ตนส่งชื่อเป็นภาษาอังกฤษไปให้นายยุทธนาฯ ให้เพื่อให้ออกตัวของตนและภรรยา แต่นายยุทธนาฯ กลับไม่สนใจถามชื่ออีก 2 คนที่เหลือ ทำเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญจนกระทั่งมาเจอกรณีของ น.ส.นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล หรือ ดีเจพี่อ้อย
จึงเริ่มเอะใจว่าตนจะโดนหลอก อีกทั้งเวลาผ่านมาจนถึงกำหนดที่จะต้องทำการบุ๊คกิ้งตั๋วแล้วก็ยังไม่ได้มีการทำบุ๊คกิ้งตั๋วให้แต่อย่างใด ทำให้เชื่อว่าน่าจะตกเป็นเหยื่อถูกหลอกด้วยเช่นกัน จึงไปแจ้งความไว้ จริงๆกรณีของตนความเสียหายมันยังไม่เกิด แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราก็คงเป็นหนึ่งในคนที่ถูกฉ้อโกง จึงมาลงบันทึกประจำวันไว้กับทางกองปราบฯไว้ก่อน
“จริงๆแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะโดนหลอกแต่เมื่อเหตุมันเกิดมาแล้วก็อยากฝากเตือนว่า ของถูกมันไม่มีจริง ส่วนเรื่องเงินก็ไม่คิดว่าจะได้คืนแล้ว แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับนายยุทธนาฯ เพื่อที่ตัวเขาจะได้ไม่ไปหลอกคนอื่นต่อไปอีก” นายตะวัน กล่าว
น.ส.วรินดาฯ หรือ ดีเจดาด้า กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตนต้องการจะเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นกับครอบครัว โดยได้จองตั๋วกับนายยุทธนาฯ เพราะเห็นว่าทำงานอยู่ที่สถานีวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ และเห็นว่ามีคนแนะนำมาเยอะ จึงเชื่อใจ สั่งจองตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนมกราคม และมีกำหนดเดินทางในช่วงเดือนเมษายนกับ พฤษภาคม รวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท
แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการดำเนินการใดๆ อีกทั้งเริ่มเห็นว่ามีผู้เสียหายถูกนายยุทธนาฯ หลอกในลักษณะเดียวกันเพิ่มมากขึ้น วันนี้ตนพร้อมผู้เสียหายรายอื่นๆจึงได้นัดรวมตัวเดินทางมากองปราบฯ โดยนำพยานหลักฐานต่างๆมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมว่าจะสามารถดำเนินการใดกับตัวนายยุทธนาฯ ได้บ้าง แล้วจะมีวิธีการอย่างไรที่จะชดใช้เงินให้กับผู้เสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการนัดเจรจากับผู้เสียหายหลายคน
แต่เมื่อถึงเวลานัดกลับบ่ายเบี่ยง ตนจึงอยากให้ตัวนายยุทธนาฯ ออกมาเจรจาพูดคุยกับผู้เสียหายดีกว่าว่าจะชดใช้เราในรูปแบบไหน ซึ่งหากไม่สามารถชดใช้เงินให้กับผู้เสียหาย และดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องราวของคนสองสามคน แต่เรื่องราวมันใหญ่โตมูลค่าความเสียหายรวมๆแล้วเกือบ 30 ล้านบาท ก็อยากเป็นกระบอกเสียงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหายรายอื่นๆด้วย
ด้าน น.ส.กัญดา หรือ ดีเจ แนน กล่าวว่า เนื่องจากว่าตัวนายยุทธนาฯ ทำงานที่เดียวกับตน แต่ว่าตอนนี้เรื่องมันไปไกลมาก สิ่งที่เขาพูดกับผู้เสียหายก็ยังไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเลย ซ้ำยังคงโกหกโดยเอาขื่อตนไปแอบอ้างในการขายตั๋วให้แก่คนอื่นต่อ ซึ่งคนอื่นที่ซื้อก็เพราะเชื่อใจเรา ซึ่งวันนี้ตนเห็นว่ามันไม่ใช่แล้วจึงเดินทางมาร้องกองปราบฯ ว่าจะสามารถดำเนินการกับเรื่องนี้ได้อย่างไรบ้าง เพราะถ้าหากไม่ดำเนินการใดๆเลย เขาก็ยังคงหลอกคนอื่นต่อไป ซึ่งพฤติกรรมของเขามันส่อให้เห็นว่าฉ้อโกงประชาชน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พร้อมกับทำการสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายเพื่อนำมาพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง