แรมโบ้อีสาน หรือ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำนปช. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า กรณีพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ. ) แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างดุเดือดว่า ในฐานะที่เคยเป็นอดีต นปช. และร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมานานเห็นว่า การแสดงความคิดเห็นของผบ.ทบ.มีเจตนาห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง และตนเห็นด้วยกับท่านว่าบ้านเมืองจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย จึงจะเดินหน้าต่อไปได้
ส่วนกรณีที่ ผบ.ทบ.ระบุว่า มีนักวิชาการที่เรียนจบจากต่างประเทศจะมาเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของประเทศไทย ถ้าเป็นจริงเช่นนั้นตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คนไทยเทิดทูนอยู่เหนือหัว ใครจะมาเปลี่ยนแปลงหรือคิดล้มล้างไม่ได้ การที่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย และว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ผบ.ทบ.นั้น สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการกินปูนร้อนท้อง อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
“อย่าลืมว่าปัญหาบ้านเมืองที่ผ่านมาใครเป็นคนเริ่มต้น ใครเป็นคนจุดประกายจนทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายมาถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่มีกองทัพเข้ามาปกป้องป่านนี้ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ที่ ผบ.ทบ.ออกมาพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ผมในฐานะที่เคยอยู่ นปช. ขอยืนยันว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่ใช่เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นการสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจของประชาชน แต่เป็นการแสวงหาอำนาจเพื่อบุคคลและเพื่อตระกูลใดตระกูลหนึ่งเท่านั้น”นายสุภรณ์ กล่าว
และว่า ตนขอเตือนหากพรรคเพื่อไทยยังไม่หยุดที่จะแสวงหาอำนาจให้กับตระกูลดัง หรือทำเพื่อตัวเอง แล้วบ้านเมืองก็จะเกิดวิกฤตขึ้นมาอีกครั้ง ตนในฐานะที่เคยเป็น นปช.ขอท้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.ที่เหลืออยู่ทุกคนทุกเวที และพร้อมแฉว่าที่ผ่านมาใครทำอะไรและเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตนไม่มีเจตนาที่จะเผาบ้านที่เคยอยู่ แต่จะทำเพื่อให้พรรคเพื่อไทยหยุดการกระทำเสียก่อนที่จะกลายเป็นชนวนทำให้บ้านเมืองเสียหายเหมือนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า การที่พล.อ.อภิรัชต์ ออกมาพูดเพื่อเป็นการปรามและปกป้องประเทศชาติไม่ให้คนไทยออกมาต่อสู้กันบนท้องถนนอีก การที่พรรคเพื่อไทยไปกล่าวหาว่าฝ่ายตรงกันข้ามว่าเป็นเผด็จการนั้น เป็นการแบ่งแยกคนในสังคมให้เกลียดชังกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมากลากไป จนเกิดการโกงกินทุจริตเกิดขึ้นมากที่สุด ส่งผลให้ประเทศชาติพังย่อยยับซึ่งเลวร้ายกว่าเผด็จการอื่นๆ ที่พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงด้วยซ้ำไป
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีการสร้างสถานการณ์กล่าวหาใส่ร้ายการทำงานของ กกต.และพรรคพลังประชารัฐเพื่อที่จะสร้างเงื่อนไขให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตนขอร้องให้หยุดวาทกรรมสร้างภาพใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ซึ่งจะนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง เพื่อหวังให้ตนเองกลับมามีอำนาจ จึงขอเตือนให้ผู้ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติหยุดการกระทำนั้นเสียก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะถ้าเกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองก็ไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์ มีแต่ประเทศชาติเสียหาย