ที่กองบังคับการปราบปราม น.ส.อรอุมา หนูปทุม อายุ 36 ปี ชาว จ.พัทลุง น้องสาวของนายอัชฌา หนูปทุม หรือขิก อายุ 38 ปี ชาว จ.พัทลุง ลูกจ้างร้านพหลค้าวัสดุก่อสร้าง ที่พบเป็นศพถูกฆ่ายัดถังโบกปูนฝังดินอยู่ที่บริเวณหลังร้านอาหารพหลวิว และพหลฟู้ด แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
ได้เดินทางเข้าพบ พันตำรวจเอก ธงชัย อยู่เกษ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.1 บก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีและให้ทางกองปราบฯ ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ฆ่าพี่ชายตนเองมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.อรอุมาฯ กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังทราบข่าวตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าคนบ้านเดียวกันจะทำกันได้ลงคอ เสียใจมาก โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณวันที่ิ 6 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ตนพยายามคิดต่อไปหานายอัชฌาฯ พี่ชาย แต่ติดต่อไม่ได้ จึงรู้สึกผิดสังเกต เพราะพี่ชายจะโทรศัพท์มาหาลูกชายทุกวัน กระทั่งตนพยายามติดต่อไปยังนายประยูนฯ ญาติที่พาพี่ชายมาทำงานด้วย แต่ได้คำตอบว่าพี่ชายยุ่ง จึงไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้ จึงเอะใจ และขอร้องให้นายประยูนฯ แจ้งความกับตำรวจ ก่อนที่นายประยูนฯ จะยอมแจ้งความกับทางตำรวจให้ที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา
น.ส.อรอุมาฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยอมรับว่าตั้งแต่ที่พี่ชายตนเองหายไป ก็สงสัยว่านายประยูนฯ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากพี่ชายตนไม่มีคนรู้จักที่กรุงเทพฯ และไม่มีนิสัยก้าวร้าวอันธพาล จึงมั่นใจว่าไม่ได้ขัดแย้งกับใคร แต่พี่ชายเคยเล่าให้ฟังว่าชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตนเองก็เคยเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวของพี่ชาย ประกอบกับคนใกล้ชิดเคยมาพูดให้ฟังว่าผู้หญิงคนดังกล่าว เป็นคนเดียวกันกับที่นายประยูนฯ ชอบอีกด้วย จึงคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุนี้ที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้น
ขณะที่ พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวว่า มั่นใจหลักฐานที่มีอยู่ว่าสามารถขอศาลออกหมายจับนายประยูนฯ และลูกน้องที่ร้านวัสดุก่อสร้างอีก 1 คน ที่ช่วยก่อเหตุในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ได้แน่นอน ขณะที่ในส่วนของการติดตามตัวนั้นขณะนี้ทางชุดสืบสวนกำลังพยายามเร่งติดตามตัวทั้งคู่ เชื่อว่ายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้มีการประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ (สตม.) เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ
พล.ต.ต.จิรภพฯ กล่าวต่อว่า ส่วนจุดที่ก่อเหตุฆาตกรรมคาดน่าจะว่าเกิดขึ้นภายในร้านวัสดุก่อสร้าง ก่อนจะมีการนำศพไปฝังอำพรางที่ลานดินหลังร้านอาหารที่ห่างออกไปเพียง 1 กิโลเมตร ส่วนในประเด็นที่มีพยานแวดล้อมให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 10 มี.ค.62 ทางเจ้าของร้านอาหารที่เป็นจุดฝังศพได้เข้ามาขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน แต่พยานคนดังกล่าวไม่ได้เปิดให้ดูเนื่องจากต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าเจ้าของร้านคนดังกล่าวนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ คงต้องรอการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อน
ล่าสุดนายประยูนฯ ติดต่อขอมอบตัวหลังทนแรงกดดันไม่ไหวถูกตำรวจกองปราบฯ ไล่ล่ากดดันอย่างหนัก เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 28 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังตำรวจกองปราบปรามได้รับแจ้งจากน.ส.อรอุมา หนูปทุม อายุ 36 ปี น้องสาวของนายอัชฌา หนูปทุม อายุ 38 ปี พี่ขาย ว่าหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ
ต่อมา พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก ธงชัย อยู่เกษ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.1 บก.ป.)และ พันตำรวจโท พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (รองผกก.1 บก.ป.) ได้จัดกำลังออกสืบสวนจนพบว่า นายอัชฌาฯ ถูกคนร้ายฆ่าโบกปูนยัดถังน้ำมัน 200 ลิตร แล้วนำไปฝังอยู่ด้านหลังร้านอาหารพหลวิว โดยมีผู้ต้องสงสัยคือ นายประยูน แก้วพยศ อายุ 48 ปี คนดูแลร้านพหลวัสดุก่อสร้างและคนงานอีกหนึ่งคนเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ หลังจากท้้งคู่ได้หายไปตั่งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2562 ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาวที่นายประยูนฯ และนายอัชฌาฯ ไปมีความสัมพันธ์ กับหญิงสาวที่เป็นเสมียนของร้านพหลวัสดุก่อสร้างที่เดียวกัน
ล่าสุด พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก วีระชัย ขุนไชยแก้ว ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.6 บก.ป.) และ พันตำรวจโท พงศ์ปณต ชูแก้ว รองผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (รองผกก.6 บก.ป.) ได้จัดกำลังชุดสืบสวนกองปราบปรามที่รับผิดขอบในพื้นที่ แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด ออกไล่ล่ากดดันนายประยูนฯ ตามบ้านญาติและคนสนิท ในพื้นที่ จ.พัทลุง จนกระทั่งล่าสุด เวลา 11.00 น. ของวันนี้ นายประยูนฯ ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯไม่ไหว ได้ติดต่อผ่านญาติ ขอมอบตัวกับตำรวจกองปราบปราม ใน.อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง โดยนำตัวขึ้นเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯ โดยนำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำต่อที่สน.บางเขน ต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง