นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “กลุ่มลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นในปี 2561 ซึ่งรวมทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) มีอัตราการเติบโตที่ 5.6% และเงินฝากเติบโตที่ 2.9% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินงานและผลจากความร่วมมือกับ MUFG ทำให้กรุงศรีมีความโดดเด่นในการบริการและความสามารถในการสร้างศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้า สำหรับในปี 2562 กรุงศรียังคงให้ความสำคัญกับความต้องการลูกค้าธุรกิจในแต่ละช่วงของการเติบโต มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์และยกระดับมาตรฐานการให้บริการของกรุงศรีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละขนาด โดยตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อของกบุ่มลูกค้าธุรกิจเติบโตที่ประมาณ 6% และเงินฝากเติบโตที่ 10%”
อย่างไรก็ตามในปี 2562 นี้ ธนาคารมีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดินิทัลในการดำเนินวานเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์และยกระดับมาตราฐานการให้บริการของธนาคาร โดยตั้งเป้าหมายการพอร์ตสินเขื่อของกลุ่มธุรกิจมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 6.2% หรือคิดเป็นพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 6.89 แสนล้านบาท จากในปี 2561 ที่มีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 6.49 แสนล้านบาท และเงินฝากเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 10.1% หรือ 2.87 แสนบ้านบาท จากในปี 2561 ที่มีเงินฝากอยู่ที่ 2.68 แสนล้านบาท
ดร.เมธินี จงสฤษดิ์หวัง ประธานเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ กล่าวว่า “กรุงศรีเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจและมุ่งมั่นที่จะยกระดับการให้บริการจากเดิมที่เน้นการให้สินเชื่อเป็นหลัก มาเป็นเหมือนพันธมิตรคู่คิดและนำเสนอโซลูชั่นทางการเงินที่เหมาะสมให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งความร่วมมือกับ MUFG ทำให้กรุงศรีสามารถใช้ประโยชน์จากนวัติกรรมการเงินระดับโลกที่ทันสมัยตลอดจนสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น สำหรับในปี 2562 กรุงศรีมีแนวทางในการดูแลลูกค้า 3 ด้าน คือ 1).สนับสนุนการให้สินเชื่อเพื่อการเติบโตและขยายธุรกิจด้วยบริการครบทุกรูปแบบ 2). ให้บริการโซลูชั่นทางการเงินแบบครบวงจรเพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจและช่วงการเติบโตของธุรกิจของลูกค้า รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งผ่านความร่วมมือกับ MUFG 3). พัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพสามารถตอบโจทย์และความต้องการของลูกค้าได้ทันทีผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม รวมทั้งนวัติกรรมทางการเงินเพื่อบริหารสภาพคล่องที่ช่วยในการดำเนินงานและบริหารความเสี่ยงให้กับลูกค้าธุรกิจ”ดร.เมธินี กล่าว
สำหรับในปีที่ผ่านมา ธนาคารมีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่เกือบ 1.7 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรอยู่ที่ประมาณ 25% ลูกค้าเอสเอ็มอี 15% ลูกค้ารายย่อย 48% และกลุ่มธุรกิจลูกค้าญี่ปุ่น 12% โดยในส่วนของกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ในปี 2562 ตั้งเป้าหมายในการให้สินเชื่อธรุกิจอยู่ที่ประมาณ 4.08 ล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีการให้สินเชื่ออยู่ที่ 3.78 แสนล้านบาท และตั้งเป้าหมายมีอัตราการเติบโตเงินฝากในปีนี้อยู่ที่ 9.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 19% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีเงินฝากอยู่ประมาณ 7.7 หมื่นล้านบาท