ที่กองบังคับการปราบปรามปราบปราม พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.2 บก.ป.) และ พันตำรวจโท กรกช ยงยืน สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (สว.กก.2 บก.ป.)
นำกำลังเข้าจับกุม นายสมเกียรติ กลางสวัสดิ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 4 ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชพจน์ จ.บุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.314/2561 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2561 คดีอาญา ที่ 397/2561 ข้อหา “ทำร้ายร่างกายบุพการี ,กระทำความรุนแรงในครอบครัว” ได้ที่บริเวณลานจอดรถสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม.
สืบเนื่องมาจาก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 นายสมเกียรติฯ ดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา ได้ไปพูดคุยกับมารดา เรื่องจะขอไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ขณะนั้น มารดา กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว บอกว่านายสมเกียรติฯ เมามากแล้ว เมาแบบนี้ไปไม่ได้ และปฏิเสธไม่สนับสนุนให้ไปทำงานต่างประเทศ นายสมเกียรติฯ จึงเกิดบรรดาโทสะ ตรงเข้าไปเทกับข้าวที่มารดากำลังทำอยู่ และเข้าทำร้ายร่างกายมารดาจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ กับญาติที่รู้จักกัน
ต่อมามารดาได้เข้าแจ้งความกับ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจาก นายสมเกียรติฯ เคยก่อเหตุพฤติกรรมเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง จนชาวบ้านแถวนั้นเอือมระอา มารดาเกรงว่าจะไปก่อคดีที่อื่นอีก จึงได้เข้าแจ้งความไว้ก่อน ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสมเกียรติฯ ได้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ที่เขตราษฎร์บูรณะ ก่อนจะติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบอสวน นายสมเกียรติฯ รับสารภาพว่าได้ทำร้ายร่างกายมารดาจริง เนื่องจากตนเองเห็นเพื่อนบ้านไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ร่ำรวยกลับมา ตนจึงมีความคิดว่าอยากไปทำงานที่ต่างประเทศบ้าง เมื่อไปขอร้องให้มารดาสนับสนุน แต่มารดากลับปฏิเสธ แถมยังด่าทอตนเรื่องพฤติกรรมการดื่มสุรา จึงไม่พอใจก่อนทำร้ายร่างกายมารดาจนได้รับบาดเจ็บและหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายสมเกียรติฯ ได้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จับกุมในข้อหา เมาสุราประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะมาแล้ว 2 ครั้ง ทะเลาะกับพี่สาวตนเอง ไม่ได้ทะเลาะกับมารดาแต่อย่างใด
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง