ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง (ศลต.ตร.) กล่าวถึงการทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2562 ของตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ว่า โพลดังกล่าวเป็นการทำการสำรวจในหมู่ข้าราชการตำรวจ เป็นการทำกันเองไม่มีวัตถุประสงค์อะไรเป็นพิเศษ และไม่มีการเผยแพร่ผลสำรวจแต่อย่างใด ซึ่งการทำโพลต้องอยู่ภายใต้บังคับของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 72 ประกอบมาตรา 157 โดยต้องพิจารณาว่า มีเจตนาไม่สุจริตหรือไม่ มีลักษณะของการชี้นำ หรือ กระทำก่อนการลงคะแนน 7 วันหรือไม่

รองผบ.ตร.กล่าวต่อไปว่า กรณีนี้ตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายและวินัยตำรวจแต่อย่างใด เพราะไม่มีลักษณะชี้นำ ให้เลือกหรือไม่เลือกใคร ทั้งพรรคและตัวบุคคล จึงมีสิทธิที่จะทำได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม ขณะเดียวกันไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆ เพราะไม่มีความผิดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามตนเองได้ตำหนิ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ด้วยวาจาไปแล้ว พร้อมสั่งการให้ยุติการสำรวจ เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ล่าสุดทราบว่าช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้มีการปิดไปแล้ว ขณะเดียวกันได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบต่อไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวด้วยว่า สำหรับภาพรวมการดูแลความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งทั่วประเทศ ขณะนี้จะต้องจับตาทุกพื้นที่ ที่ผ่านมาตนเองได้กำชับตำรวจทุกนายให้วางตัวเป็นกลาง ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวการเมือง หรือ ติดตามนักการเมืองอย่างเด็ดขาด

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล

สำหรับความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 72 ระบุว่า การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยมีเจตนาไม่สุจริต มีลักษณะเป็นการชี้นำ หรือ มีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือก หรือ ลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด จะกระทำมิได้ ส่วนมาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 72 หรือ เปิดเผย หรือเผยแพร่ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาขน เกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนน ในระหว่างเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง จนถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เกือน หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ