นาย นคร มาฉิม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก และอดีตประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฎร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ถ้าฝ่ายประชาธิปไตย สู้ในกฎกติกาที่ฝ่ายเผด็จการเป็นผู้กำหนด คงจะไม่มีวันชนะสงคราม
ต้องยอมรับความจริงว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐประหาร จากทุกเหล่าทัพ ได้ทำการปล้นอำนาจประชาชนคนไทยไปได้สำเร็จ เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งหากเทียบตามนิยามของกฎหมายอาญา ก็คือคณะซ่องโจร และปกครองประเทศไทยมาจนถึงวันนี้ พร้อมแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนที่จะสืบทอดอำนาจต่อไป เพื่อคงสถานะความเป็นชนชั้นปกครองในระบอบโจรเผด็จการต่อไป
พวกเขาจึงตั้ง คสช เป็นแกนกลางบริหารในระดับนโยบายและเป็นองค์กรที่กำหนดยุทธศาสตร์ กำหนดทิศทางของประเทศไทย แต่เป็นการกำหนดโดยโจรเผด็จการ ของโจรเผด็จการ และเพื่อโจรเผด็จการ แบบเข้มข้นเท่านั้น ไม่ได้ทำโดยประชาชน ของประชาชน และเพื่อประชาชน เพื่อส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยเลยแม้แต่น้อย
ดังนั้นพวกเขาเหล่าโจรเผด็จการ ทั้ง คสช และบรรดาระบอบเผด็จการ ที่ประกอบด้วย นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและชักใยอยู่เบื้องหลัง เพื่อดำรงระบอบเผด็จการไว้ เพื่อให้พวกเขาคงสถานะความเป็นชนชั้นปกครองต่อไป เพื่อจะได้ปกครอง กดขี่ ข่มเหงคนไทยต่อไป มีอำนาจและผลประโยชน์ต่อไป พวกเขาจึงแต่งตั้งเครือข่ายบริวารของเผด็จการมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ
1 แต่งตั้ง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เพื่อให้เป็นสภาสมุนโจรที่คอยรับใช้ระบอบโจรเผด็จการ
2. แต่งตั้ง สภาปฏิรูปประเทศ หรือ สปท/ สปช เป็นสภาสนุนโจรอีกสภาหนึ่งเพื่อสร้างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี กดขี่คนไทยให้เป็นทาสไพร่ตลอดไป
3. แต่งตั้ง กรธ. ที่มีนักกฎหมายปีศาจหลายคนอยู่ในนั้น ที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับไหน ก็จะเกิดวิกฤติการเมืองจนนองเลือดทุกครั้ง สร้างรัฐธรรมนูญโจรขึ้นมา
4. มีครม. หรือคณะรัฐมนตรี ซึ่งในทางวิชาการ และทางหลักสากล เขาจะให้คำนิยาม ว่าโจรเผด็จการ คณะรัฐประหาร เรียกหัวหน้าคณะรัฐประหาร ไม่ได้รับเกียรติว่าเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีความชอบธรรมมาแต่ต้น
หากเทียบกันแบบนิยายบ้านๆ ที่นิยมเอามาฉาย ในไทย ก็เปรียบเหมือน ประเทศไทยเป็นหญิงสาว ที่งดงาม แต่ก็ถูกโจรเผด็จการที่ชั่วร้ายปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์ แล้วฉุดลากหญิงสาวไปข่มขืน แล้วตั้งครรภ์ ลูกที่ออกมาจึงเป็นลูกโจร เป็นทายาทอสูรอย่างแท้จริง
ยิ่งน่าเศร้า ที่ทุกครั้งที่มีการปล้นอำนาจประชาชนไป ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ประมาณ 2,500,000 คนยอมรับและก้มหน้ารับใช้โจรเผด็จการอย่างไม่มีเงื่อนไขหรือต่อต้านเพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ที่เลวร้ายมากกว่านั้น คือ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมไทย สยบยอม ก้มหน้ารับใช้กฎ กติกาของโจรเผด็จการ และน้อมรับโดยสดุดีว่าเป็นกฎหมาย ทั้งที่ในทางทฤษฎีและวิชาการ มันไม่ใช่กฎหมาย แต่มันเป็นกฎโจร
แทนที่ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมไทยจะปกป้อง คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของประชาชนที่เสียภาษีเลี้ยงดูพวกเขา แต่กลับไปยอมรับกฎโจร เอามาบังคับใช้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพและอำนาจประชาชนคนไทยไปเสียอีก จึงถือว่า พวกที่รับใช้โจร แต่ทรยศต่อประชาชน ช่างไร้จิตสำนึกต่อประชาชนคนไทยที่เสียภาษีเลี้ยงดูพวกเขาอย่างยิ่ง
การยุบพรรคไทยรักไทย การยุบพรรคพลังประชาชน และการเร่งรีบดำเนินการกับพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไร ในทางลบ หรือทางบวก ทางวิชาการถือว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐเผด็จการ และกระบวนการยุติธรรมทำลายนักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งโลกถือว่าเลวร้ายที่สุด ดังเช่นนักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส มองเตสกิออร์กล่าวไว้ เพราะเมื่ออำนาจประชาชนสูงสุด องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมไทยก็ไม่ควรจะมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าอำนาจประชาชนหันกลับมามองฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ว่า จะเป็น พรรคการเมืองที่เคยถูกยุบ พรรคการเมืองที่กำลังจะถูกยุบพรรค แกนนำพรรคการเมือง ทีมงานกฎหมายพรรค และ ทนายของพรรคการเมือง กลับพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกัน และ ทิศทางเดียวกันว่า เคารพคำตัดสิน เคารพศาล ยอมรับคำสั่งขององค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมโดยดุษฎี และพร้อมก้มหน้ารับชะตากรรม
ผมจึงค่อนข้างที่จะไม่เห็นด้วยกับการต่อสู้ของฝ่ายกฎหมายพรรคการเมือง และ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยที่ยอมรับเอากฎที่ออกโดยโจรเผด็จการ ที่เขาเอาเปรียบทุกอย่าง ทุกวิถีทาง เหมือนนิทาน หมาป่า กับ ลูกแกะเช่นที่กำลังต่อสู้กันอยู่
เพราะในความเป็นจริง นี่มันคือสงคราม สงครามระหว่างระบอบประชาธิปไตย กับ ระบอบเผด็จการ ที่ปัจจุบันฝ่ายเผด็จการใช้ทุกองคาพยพทั้ง กองทัพ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม เป็นเครื่องมือสังหารฝ่ายประชาธิปไตย ทำลายอำนาจประชาชน สร้างกฎหมาย กติกาที่เป็นของเผด็จการโดยเผด็จการและเพื่อเผด็จการเท่านั้น พวกเขาเหล่าเผด็จการจึงอ้างเป็นกฎหมายและค่อยๆย่อยสลายทำลายนักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ จนฝ่ายประชาธิปไตยจะหมดแรงและพ่ายแพ้ในที่สุด
เมื่อเผด็จการเป็นผู้กำหนดเกม แล้วหากฝ่ายประชาธิปไตยยอมรับในเกมที่เผด็จการกำหนด ก็ยากที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะสงครามของสองระบอบนี้ได้ จึงอยากให้นักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยได้พิจารณาทบทวนแนวทางการต่อสู้ เพื่อโอกาสที่ฝ่ายประชาธิปไตยและประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะ และชนะอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยให้ระบอบเผด็จการมาทำสิ่งเลวร้ายต่อประชาชนคนไทย ต่อประเทศไทยของเราอีกต่อไป