นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Korn chatikavanij เกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่องงบกระทรวงกลาโหม โดยอธิบายให้เห็นถึงการดูงบประมาณของประเทศที่ถูกต้อง เป็น 3 แบบหลักคือ
1. ดูงบเป็นจำนวนเงิน
2. ดูงบเทียบสัดส่วน % ของงบรายจ่ายก้อนนั้นต่อจีดีพี (เพื่อเทียบค่าใช้จ่ายต่อรายได้ประเทศ)
3. ดูงบเทียบสัดส่วน % ของงบรายจ่ายก้อนนั้นต่องบรวมทั้งหมด
(เพื่อเทียบค่าใช้จ่ายนั้นต่อค่าใช้จ่ายรวม)
ตามภาพในงบที่เป็นจำนวนเงิน ก็จะเห็นชัดเจนว่า…ปีเดียวที่กล้าปรับลดงบทหารลงไปคือในสมัยคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นรมว. กลาโหม) !!
โดยนายกรณ์ ย้ำว่า การใช้งบรัฐไม่ว่าจะงบประมาณรายจ่ายประเภทใดก็ตาม (รวมถึงงบทหาร) ต้อง “คุ้มค่า” “โปร่งใส”และ“ตรวจสอบได้” และทุกฝ่ายไม่ควรเพิ่มเงื่อนไขความแตกแยก โดยไม่มีความรับผิดชอบต่อข้อเท็จจริง และประชาชนควรดูพฤติกรรมของทุกรัฐบาลในอดีตว่า เคยมีท่าทีอย่างไร โดยเฉพาะพรรคที่ประกาศว่าจะตัดงบทหารลงเท่านั้นเท่านี้ ในยุคที่มีอำนาจเคยทำจริงหรือไม่
ส่วนในภาพประกอบนี้ เป็นการคำนวณใหม่ให้ถูกต้อง โดยรวมงบไทยเข้มแข็งเข้าไปด้วย ซึ่งงบไทยเข้มแข็งนี้ไม่ได้อยู่ในงบประมาณรายจ่ายทั่วไป เนื่องจากเป็นงบลงทุนพิเศษที่ใช้ในการแก้วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในช่วงปี 2553
ส่วนการนับปีงบประมาณ โดยปกติจะถูกทำโดยปีก่อนหน้า ดังนั้นส่วนของ 2552 คือส่วนที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยนายกฯ สมชาย ทำเอาไว้เราจึงวงเอาไว้ให้ชัดๆ
รัฐบาลอภิสิทธิ์ บริหารประเทศด้วยงบประมาณ และสภาวการณ์ของประเทศที่มีข้อจำกัดสูงมาก ทั้งปัญหาการเมืองภายในประเทศ และวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลก แต่เราก็ทำอย่างสุดความสามารถจนเราได้รับการยอมรับในปี 2553 ว่าเป็นประเทศที่ฟื้นจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกได้เร็วเป็นอันดับ 2 ของโลก เศรษฐกิจกลับมาพลิกฟื้นโต 7% กว่า พร้อมเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจทั้งการส่งออก และภาคการลงทุนกลับมาคึกคักโตสองหลักอีกครั้งหนึ่ง