น.1 แถลงผลงานสืบมักกะสัน บุกทลายโกดังแก๊งลักรถ แจ้งความวันเดียวตามยึดได้

67

ผบช.น. โชว์ผลงานเด็ด ตำรวจสืบสวน สน.มักกะสัน ใช้สัญญาณจีพีเอสตามรอยรถจักรยานยนต์ที่ถูกลัก หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพียงวันเดียว ก่อนบุกทลายโกดังซุกซ่อนรถต้องสงสัย 11 คัน เตรียมส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 ธ.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.น.1, พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1, พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน, พ.ต.ท.ธนาธิป จิตราคนี รอง ผกก.สส.สน.มักกะสัน และ พ.ต.ท.จาตุรงค์ ติดนนท์ สว.สส.สน.มักกะสัน พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงจับกุมนายเพชร คงรัตน์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กส์ 160 สีดำ ทะเบียน 9 ขบ 9142 กรุงเทพมหานคร และตรวจยึด รถ จยย. ต้องสงสัย อีกจำนวน 10 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณด้านข้างโกดัง หน้าห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นซี โลจิสติกส์ แมเนจเม็นท์ เลขที่ 11/57-58 ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ซอย 24 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.68 เวลาประมาณ 19.50 น. มีผู้เสียหาย คือ นายจิรายุฯ เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ สน.มักกะสันว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ได้นำรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX 160 สีดำ ทะเบียน 9 ขบ 9142 ที่เพิ่งดาวน์ มาได้ 6 เดือนผ่อนไปแล้ว 6 งวด งวดละ 3,380 บาท โดยจอดรถทิ้งไว้ที่บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน อาร์ซีเอ บล็อก D ถ.จตุรทิศ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ต่อมาวันที่ 21 ธ.ค.เวลาประมาณ 1 ทุ่ม กลับพบว่ารถถูกคนร้ายลักไป

โดยนายจิรายุฯ ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่า รถของตนได้ติดอุปกรณ์สัญญาณจีพีเอสเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงให้นายจิรายุ เปิดโทรศัพท์เชื่อมต่อกับสัญญาณจีพีเอส ปรากฏตำแหน่งสัญญาณอยู่ที่บริเวณด้านข้างหน้าโกดัง ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นซี โลจิสติกส์แมเนจเม็นท์ 2 ย่าน ถ.พุทธมณฑลสาย 2 ทางฝ่ายสืบสวน และนายจิรายุฯ ผู้เสียหาย จึงออกติดตามไปยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงได้ตรวจพบตำแหน่งจีพีเอส ที่ติดอยู่กับตัวรถ อยู่ภายในโกดังที่สร้างมุงหลังคา และกั้นด้วยแผ่นสังกะสี ตั้งอยู่ด้านข้างบริเวณห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นซี โลจิสติกส์แมเนจเม็นท์ กระทั่งพบตัว นายเพชร คงรัตน์ ผู้ต้องหา นั่งอยู่บริเวณดังกล่าวจึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้

นายเพชรฯ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนเป็นคนมีหน้าที่เฝ้าและดูแลสถานที่ดังกล่าว และภายในโกดังเป็นที่เก็บรถ จยย.ไว้จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบภายในโกดัง ผลการตรวจค้นพบรถ จยย. ของผู้เสียหาย และรถ จยย.อีก จำนวน 10 คัน ซึ่งเป็นรถที่ไม่มีการติดแผ่นป้ายทะเบียน มีทั้งรถใหม่และเก่า จึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ เมื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรถ จยย.และเอกสารรถที่จอดอยู่ทั้งหมด นายเพชรฯ ทำทีมีพิรุธและไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถทั้งหมดที่จอดอยู่ภายในโกดังได้

โดยนายเพชร ยังให้การเกี่ยวกับรถจยย.ของผู้เสียหาย ว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 21 ธ.ค.ได้มี ผู้ชาย อายุประมาณ 36-37 ปี ขับรถกระบะตู้ทึบ จำยี่ห้อสี และทะเบียนไม่ได้ บรรทุกรถ จยย.ของผู้เสียหาย มาส่งให้ตนและตนเก็บไว้ในโกดังดังกล่าว ก่อนหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายเข้ามา ประมาณ 30 นาทีที่ผ่านมา จากการสอบถาม นายเพชรฯ ให้การอีกว่า เจ้าของบริษัทดังกล่าวและโกดัง เป็นของนายแชมป์ ซึ่งตนเป็นลูกน้องหรือลูกจ้าง มีหน้าที่คอยเฝ้าดูแลสถานที่ดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ศักยะ รอง ผบก.น.1 กล่าวว่า ขบวนการลักรถจยย. ส่วนใหญ่ในประเทศ จะมีออเดอร์เพื่อส่งออกไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่นลาวและกัมพูชา แต่ในอดีต จะเน้นไปที่ประเทศลาวเป็นส่วนใหญ่ แต่ในส่วนของขบวนการนี้ต้องรอ สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องจึงจะสามารถชี้ชัดได้ว่าจะถูกส่งออกไปยังประเทศใด โดย กลุ่มผู้ก่อเหตุ จะมีรุ่นและยี่ห้อที่ต้องการ คือ ฮอนด้าเวฟ เพราะเป็นที่ต้องการของตลาด ผู้ขับขี่และผู้เป็นเจ้าของจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะสืบสวนขยายผล โดยจะออกหมายเรียกเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์มาสอบถามซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นพบเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ดังกล่าวเป็นชาวไทย ขณะนี้ตำรวจได้ติดต่อเพื่อให้เข้าพบ พ.ต.อ.อุรัมพร ผกก.สน.มักกะสัน ส่วนจะเชื่อมโยงกับการจับกุมเครือข่ายลักรถจยย.อื่น ๆ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลเคยจับกุมมาก่อนหน้านี้ หรือไม่อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและรอสอบปากคำเพิ่มเติม

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์หรือรับของโจร” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป