“พยัคฆ์ไพร” รวบหนุ่มลูกจ้างนายทุนสร้างรีสอร์ทรุกป่า คาเลื่อยพร้อมไม้หวงห้าม เตรียมขยายผล

96

ชัยภูมิ, วันที่ 20 ธ.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมป่าไม้ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มทุนเข้ามา ก่อสร้างที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูแลนคาด้านทิศเหนือ ท้องที่หมู่ที่ 1 ตำบลซับสีทอง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ นายนิกร ศิรโรจนานนท์ อธิบดีกรมป่าไม้ และนายโกสิทธิ์ นิลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้สั่งการให้นายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) โดยส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย.2 (ภูแลนคา) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.8 (นครราชสีมา) และกำลังตำรวจกองกำกับการ 3 บก.ปทส. เข้าตรวจสอบ

เมื่อมาถึงจุดเป้าหมาย เจ้าหน้าที่พบชายคนหนึ่งกำลังดำเนินการเลื่อยไม้ จึงได้นำกำลังเข้าควบคุมตัว ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกจ้างของสถานประกอบกิจการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเจ้าของได้สั่งให้มาตัดเพื่อเคลียร์พื้นที่ จากการตรวจสอบพบเป็นไม้หวงห้าม ประเภทไม้พะยูง ประดู่ นนทรี และคอแลน 22 ท่อน และยังพบว่ามีตอไม้หวงห้ามจำนวนมากกระจายเต็มพื้นที่ พร้อมร่องรอยการเผาตอไม้ และเศษกิ่งไม้  เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้ท่อนหวงห้ามทั้งหมด พร้อมเลื่อยโซ่ยนต์ไว้เป็นของกลาง และนำตัวไปจัดทำบันทึกที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชย.2 (ภูแลนคา) จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีหญิงคนหนึ่งเป็นเจ้าของ โดยพบหญิงคนหนึ่งอ้างเป็นลูกจ้าง ผู้ดูแลพื้นที่ จึงได้ขอให้โทรประสานเจ้าของซึ่งอยู่ต่างพื้นที่เพื่อให้ข้อมูล และแจ้งการเข้าตรวจสอบ

จากการจับค่าพิกัดรอบแปลงที่ดินที่มีการทำประโยชน์ คำนวณเนื้อที่ได้ทั้งสิ้น 74-0-74 ไร่ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดไว้ตั้งแต่ 9 ตุลาคม 2568 จำนวน 31-2-26 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบสิ่งก่อสร้าง จำนวน 16 รายการ เบื้องต้นจึงแจ้งความเอาผิดหลายข้อหาตามพระราชบัญญัติป่าไม้ และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล กฎหมายควบคุมอาคาร กฎหมายโรงแรม และได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลไปถึงนายจ้าง และผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นต่อไป