ที่กองปราบปราม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนาย ตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมด้วย นายเศรษฐ์ เดชสุภา อายุ 37 ปี และน.ส.รักชนก เจริญมากสุข อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโท จตุพร งามสุวิชชากุล รองผู้กำกับการ 2 กองปราบปราม (รองผกก.2 บก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม และพันตำรวจโทนายหนึ่งของสถานีตำรวจภูธรบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ในข้อหา สมคบกันสร้างหลักฐานเท็จ และปลอมแปลงเอกสารราชการ
นายษิทราฯ เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากกรณีที่นายเศรษฐ์ฯ และน.ส. รักชนกฯ สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางปะอิน เพื่อดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะฯไว้ที่ สภ.บางประอิน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีการนำข้อมูลส่วนตัวของนายเศรษฐ์ฯ และภรรยา ไปโพสต์ไว้ตามสื่อโซเชียลต่างๆ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแอดมินเพจกระโหลกแดง หรือ Red Skull ซึ่งมีปัญหาความขัดแย้งกับนายอัจฉริยะฯ ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าไปตรวจสอบที่กรมการปกครองพบว่า ผู้ที่เข้าไปสืบค้นข้อมูลและดึงข้อมูลคือ พ.ต.ท.นายหนึ่ง จึงเข้ามาแจ้งความและขอลงบันทึกประจำวัน เพราะทำให้นายเศรษฐ์และครอบครัวถูกคุมคาม โดยมีผู้ส่งข้อความข่มขู่ และโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าอีกด้วย
นายษิทราฯ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนการแจ้งความครั้งนี้ เนื่องจากพบหลักฐาน ว่า ที่นายอัจฉริยะฯ ที่ไปลงบันทึกประจำวัน ที่สภ.บางปะอิน ในวันที่ 28 พ.ย.61 ตามหลักฐานระบุว่าเพจเฟซบุ๊ก Red Skull ได้โพสต์ข้อความใส่ร้ายให้นายอัจฉริยะฯ ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความกับพ.ต.ท.รายดังกล่าว ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานสอบสวน เพื่อให้แกะร้อยนายเศรษฐ์และภรรยา และดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ เพราะตามหลักฐานบันทึกประจำในวันที่ 28 พ.ย.61 นั้น เป็นการลงบันทึกหลักฐานย้อนเวลา มีการเซ็นต์ชื่อผิดตำแหน่ง และยังผิดระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกด้วย จึงเข้ามาร้องกองปราบฯให้สอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฏหมายด้วย
ด้านนายเศรษฐ์ฯ กล่าวต่อว่า การที่นายอัจฉริยะฯ นำข้อมูลส่วนตัวภรรยาของตนมาเปิดเผย เพราะคิดว่า ตนเป็นเจ้าของเพจกะโหลกแดง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ จะมีก็เพียงเข้าไปแสดงความคิดเห็นเท่านั้น จึงอยากสอบถามว่า ทำไมตำรวจท่านนี้ถึงได้นำข้อมูลของตนเองออกมาแล้วไปทำการแจกจ่าย สร้างความเดือนร้อนให้กับตน จึงอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องของการนำข้อมูลส่วนตัวของประชาชนออกไปให้กับนายอัจฉริยะฯ ได้อย่างไรอีกด้วย เบื้องต้นพ.ต.ท.จตุพรฯ ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง