ตร.ไซเบอร์​ ขยายผลเจ้าแม่หวย​“ก้อย บางแค”ตามรวบสาวเจ้ามือใหญ่โคราช “หวยบ้านทรัพย์มหาศาล”

55

สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเดือน ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้จับกุม “ก้อย บางแค” แม่ค้าพระเครื่องออนไลน์วัย 30 ปี ที่ผันตัวเป็นเจ้ามือหวยรายใหญ่ย่านบางแค กรุงเทพฯ จากการสืบสวนขยายผลในครั้งนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อมูลว่า น.ส.ก้อยฯ เป็นลูกข่ายที่รับสลากหวยมาจาก “หวยบ้านทรัพย์มหาศาล” กระทั่งพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกลุ่มผู้ลักลอบขายบัตรหวยใต้ดินออนไลน์ในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นเป้าหมายได้สำเร็จ

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.68 พ.ต.ท.สิริวิชญ์ มหัทธนวิศิษฎ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.4, พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผกก. ช่วยราชการ กก.2 บก.สอท.4, พ.ต.ต.ยุทธพงษ์ อมรมงคลศิลป์ สว.ฯ ช่วยราชการ กก.2 บก.สอท.4, พ.ต.ต.เปรมประชา อุตมา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาล จังหวัดพิมายที่ 19/2568 ลงวันที่ 17 ธ.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.7 ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

ผลการตรวจค้น สามารถจับกุม น.ส.หยาดฟ้าฯ อายุ 30 ปี พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือไอโฟน 12 Pro Max ที่ใช้สำหรับติดต่อตัวแทนเพื่อส่งหวยไปขาย จำนวน 1 เครื่อง และบัตรแสดงหมายเลขหวยของบ้านหวยต่างๆ รวมกว่า 3,700 ใบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในความผิดฐาน “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”

จาการซักถาม เบื้องต้น น.ส.หยาดฟ้าฯ ยอมรับว่า ตนเป็นแม่ข่ายหวยใต้ดินออนไลน์และส่งหวยให้กับตัวแทนทั้งในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา และต่างจังหวัดเพื่อนำไปขาย โดยขายในราคาใบละ 150 บาท ส่วนตัวแทนจะได้กำไรจากราคาหน้าสลาก 20 บาทต่อใบ ผลรางวัลออกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน โดยผู้ซื้อหวยจากตนจะได้ลุ้นรางวัลคือ รางวัลเลข 3 ตัวท้ายรางวัลที่ 1 รับเงิน 100,000 บาท, 3 ตัวหน้ารางวัลที่ 1 รับเงิน 1,000 บาท, 3 ตัวท้ายรางวัลข้างเคียง รับเงิน 300 บาท, 3 ตัวหน้าหมุนสองครั้ง รับเงิน 300 บาท, 3 ตัวท้ายหมุน 2 ครั้ง รับเงิน 300 บาท, 2 ตัวโต๊ดรางวัลที่ 1 รับเงิน 200 บาท, 2 ตัวบน รับเงิน 200 บาท และ 2 ตัวล่างรับเงิน 200 บาท

โดยตนเองนั้นลักลอบขายหวยใต้ดินออนไลน์มานานกว่า 5 ปี แล้ว เนื่องจากรายได้ดี ประมาณ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน ซึ่งตนเองก็นึกไว้อยู่แล้วว่าสักวันจะต้องถูกจับ กำลังคิดอยากจะเลิกทำ แต่ดันมาโดนตำรวจไซเบอร์จับกุมเสียก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป