เข้มชายแดนศรีสะเกษ! ตำรวจ–ชรบ. ตั้งด่านคุมเข้าพื้นที่สีแดง อนุญาตชาวบ้านกลับดูสัตว์เลี้ยงได้ 2 ชั่วโมง ฝ่าฝืนผิดกฎหมาย

172

หลังอพยพ 3 อำเภอในพื้นที่สีแดงกว่า 1 สัปดาห์ ตำรวจร่วมชรบ.ตั้งด่านและจุดลงทะเบียน คุมเข้มความปลอดภัย เปิดทางชาวบ้านกลับดูแลทรัพย์สิน–สัตว์เลี้ยงแบบจำกัดเวลา ขณะที่สถานการณ์ชายแดนยังตึงเครียด เสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่องทั้งวัน

สถานการณ์ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังมีคำสั่งอพยพประชาชนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ใน 3 อำเภอพื้นที่สีแดง ได้แก่ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอภูสิงห์ และอำเภอขุนหาญ นานกว่าหนึ่งสัปดาห์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และฝ่ายปกครอง ได้ตั้งด่านตรวจและจุดลงทะเบียน เพื่อควบคุมการเข้า–ออกพื้นที่อย่างเข้มงวด

ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่า เจ้าหน้าที่มีการเรียกตรวจสอบรถยนต์ทุกคัน พร้อมสอบถามวัตถุประสงค์และแจ้งสถานการณ์ด้านความปลอดภัยให้ประชาชนทราบ โดยผู้ที่ขออนุญาตเข้าพื้นที่จะต้องนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนทั้งขาเข้าและขาออกอย่างเคร่งครัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่มีความจำเป็นต้องกลับไปดูแลบ้านเรือน ทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยง

ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า จำเป็นต้องกลับมาบ้านเพื่อให้อาหารสัตว์เลี้ยง ทั้งสุนัข แมว และไก่ เนื่องจากอพยพออกมาหลายวันตั้งแต่เกิดเหตุปะทะ เกรงว่าสัตว์จะขาดอาหาร พร้อมสะท้อนความเดือดร้อนว่า ไม่สามารถออกไปทำงานได้ อยากให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว เพราะครั้งนี้ยืดเยื้อกว่ารอบก่อน และหวังจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

ด้านนายทองสา สายทรัพย์ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เข้าใจความเดือดร้อนและความจำเป็นของชาวบ้านทุกคนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความกังวลเรื่องบ้านเรือน ทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยงที่ใช้ในการทำมาหากิน อย่างไรก็ตาม การเข้าพื้นที่จะต้องมีการประสานผ่านผู้นำชุมชนแต่ละหมู่บ้านก่อน เพื่อรับทราบสถานการณ์และกำหนดช่วงเวลาที่สามารถเข้าได้

สำหรับพื้นที่หมู่บ้านของตน อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าพื้นที่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง และต้องลงทะเบียนทั้งขาเข้าและขาออกอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะมีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามกฎหมายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยวันนี้ถือเป็นวันแรกของการตั้งด่านและจุดลงทะเบียน หลังมีคำสั่งอพยพ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้ขออนุญาตจากทางปลัดอำเภอเรียบร้อยแล้ว

เมื่อสอบถามถึงกรณีมีผู้แอบลักลอบกลับเข้าพื้นที่โดยไม่แจ้งลงทะเบียน ผู้ใหญ่บ้านระบุว่า มีชุดชรบ.ออกลาดตระเวนตลอด พร้อมฝากขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในชีวิต เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้ายขึ้น

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ในช่วงเช้าจนถึงก่อนเวลา 15.00 น. จะยังอนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าบ้านได้ตามความเหมาะสม แต่หลังจากนั้นจะไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังความมั่นคง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากการลักลอบเข้ามาสอดแนมของกลุ่มสายลับจากประเทศกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม รายงานสถานการณ์ล่าสุดพบว่า พื้นที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษยังมีเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นหลายสิบนัดตลอดทั้งวัน และมีการแจ้งเตือนผ่านวิทยุสื่อสารให้อพยพชุดชรบ.และผู้นำชุมชนออกจากพื้นที่สีแดงชั่วคราว หรือหลบเข้าบังเกอร์ หลังได้รับข้อมูลว่าฝั่งกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธหนักยิงเข้ามายังฝั่งไทย ท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด.