อดีต FBI เปิดตัวหนังสือ “Beyond the Badge” เผยเบื้องลึกปฏิบัติการคดีสำคัญ “ผู้ช่วยก้อง” ชื่นชมเคยช่วยตำรวจไทยคลี่คลายคดีซับซ้อน การันตีหนังสือสนุก สะท้อนประสบการณ์จริง

333

เอเชียบุ๊กส์ เซ็นทรัลเวิลด์, เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจอห์น ชาคนอฟสกี (Mr.John Schachnovsky) อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ FBI ประจำประเทศไทย ผู้มากไปด้วยประสบการณ์ ได้จัดงานเปิดตัวหน้าสือ “Beyond the Badge : Crime, Justice, and the FBI in Thailand” ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกของเจ้าตัว เล่าถึงเบื้องลึกเบื้องหลังประสบการณ์ในการปฏิบัติภารกิจของเขาในฐานะ FBI ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเคยมีปฏิบัติการร่วม กับนายจอห์น และทีมเจ้าหน้าที่สหรัฐในการคลี่คลายคดีสำคัญหลายคดี ให้กียรติเป็นผู้เขียนคำนำให้หนังสือเล่มดังกล่าว

พล.ต.ท.จิรภพ ขึ้นกล่าวในงานเปิดตัวหนังสือว่า การได้มายืนอยู่ตรงนี้เพื่อเฉลิมฉลองหนังสือที่ยอดเยี่ยมเล่มนี้ ร่วมกับ จอห์น ซึ่งเป็นผู้เขียน มีความหมายต่อตนมากจริง ๆ ที่ผ่านมามีโอกาสได้ร่วมงานกับจอห์นในช่วงที่เขามาอยู่ที่ประเทศไทย และตนบอกได้จากประสบการณ์ว่า เขาเป็นผู้อุทิศตน มีความซื่อสัตย์ และมีวิสัยทัศน์ที่เฉียบคมในทุกๆ คดีที่เราร่วมกันรับผิดชอบ

“จอห์นไม่ใช่แค่ตัวแทนจากเอฟบีไอ แต่เขาเป็นพันธมิตรที่แท้จริงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย ความมุ่งมั่นในการทำงานข้ามวัฒนธรรม และความเป็นมืออาชีพของเขาช่วยให้เราคลี่คลายคดีที่ซับซ้อนที่สุดบางคดีได้ เขารับมือกับความท้าทายของการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและเคารพ และด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เคยร่วมงานกับเขาจึงชื่นชมเขาอย่างมาก” ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแต่สนุกน่าอ่านเท่านั้น แต่ยังสะท้อนประสบการณ์จริงจากชายผู้เข้าใจสิ่งที่อยู่เบื้องหลังข่าวพาดหัว การเขียนคำนำถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับตน ไม่ใช่แค่เพราะการทำงานร่วมกันและมิตรภาพของเรา แต่เพราะตนเชื่อมั่นอย่างแท้จริงในมุมมองที่เขาแบ่งปันในหนังสือเล่มนี้หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวาง และหวังว่ามิตรภาพและความร่วมมือของเราจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า

ด้านนายเบน เวอร์ชู (Mr. Ben Virtue) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ FBI ประจำประเทศไทย คนปัจจุบัน กล่าวในงานเดียวกันว่า เขาเป็นเพื่อนกับจอห์นมายาวนานกว่าสิบปี ทั้งในและนอกเวลางาน จอห์นเป็นคนขยันทุ่มเทในการทำงาน สิ่งต่าง ๆ ที่เขาเขียนในหนังสือเล่มนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ของเขา ที่สำคัญจอห์นเป็นผู้ปูทางให้กับความสัมพันธ์ระหว่าง FBI กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

ขณะที่นายจอห์น กล่าวถึงสาเหตุที่เขียนหนังสือเล่มนี้ว่า เพื่อเล่าให้ผู้คนฟังว่า 1. FBI ที่ประจำการอยู่ต่างประเทศทำอะไรบ้าง, 2. การทำงานหนักของตำรวจไทย เพราะต้องยอมรับว่าภาพของตำรวจไทยมักจะไม่ค่อยถูกนำเสนอในเชิงบวก ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์มักแสดงภาพตำรวจในบทบาทตัวตลกหรือไร้ความสามารถ แต่ตนอยากแสดงให้เห็นถึงตำรวจไทยในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทุ่มเท มีทักษะ และมีความมุ่งมั่นอย่างที่เคยร่วมงานด้วย 3. การร่วมมือระหว่างประเทศของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย เพราะไม่ใช่แค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ทุกชาติมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายมาประจำการในประเทศไทย จึงต้องการแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศอีกด้วย

ทั้งนี้อดีตเจ้าหน้าที่ FBI ประจำประเทศไทย ได้ยกตัวอย่างเรื่องในหนังสือที่แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่เป็นสิ่งที่เขาประทับใจ ว่า เขาได้รับการประสานงาน FBI ที่ประจำการอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ และรับผิดชอบหลายประเทศใกล้เคียงรวมทั้งโมซัมบิก ว่ามีอาชญากรรายสำคัญที่ก่อคดีลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ และฆาตกรรมเหยื่อกว่า 50 คดี หลบหนีมากบดานในประเทศไทย ซึ่งตำรวจโมซัมบิกต้องการตัวคนร้ายรายนี้กลับไปดำเนินคดีแต่ไทยกับโมซัมบิกไม่มีสนธิสัญญาความร่วมมือส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน จึงขอให้เขาช่วยเป็นตัวกลางประสานงาน ซึ่งเขาอาศัยความสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจไทยเชื่อมให้ 2 ฝ่ายได้พบกัน และด้วยสำเนียงที่ต่างกันแม้จะสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ ทำให้เขาต้องช่วยแปลจาก “อังกฤษ เป็นอังกฤษ” จนในที่สุดนำไปสู่ความร่วมมือในการจับกุม และส่งตัวอาชญากรตัวเอ้รายนี้ไปเข้ากระบวนการยุติธรรมที่ประเทศต้นทาง

“แม้บทบาทของผมจะมีแค่เป็นล่ามแปลจากภาษาอังกฤษเป็นอังกฤษ แต่ผมก็ประทับใจเคสนี้ เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี” ผู้เขียนหนังสือ“Beyond the Badge” กล่าวติดตลก

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจหนังสือ “Beyond the Badge : Crime, Justice, and the FBI in Thailand” ซึ่งตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ สามารถหาซื้อได้จากร้าน Asia Books ทุกสาขา และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ รวมทั้งหาซื้อได้ทางออนไลน์จาก Amazon.com ส่วนเวอร์ชั่นแปลภาษาไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการโดยสำนักพิมพ์อัมรินทร์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายได้ในช่วงต้นปีหน้า