CIB ผนึกจีน ปิดเกมผู้ต้องหาหนีคดีฮั้วประมูลโรงพยาบาล มูลค่า 260 ล้าน ซุกตัวกรุงเทพฯ

205

ตำรวจสอบสวนกลางร่วมมือทางการจีน รวบ “MR.SONG” ผู้ต้องหาคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างโรงพยาบาลรัฐในมณฑลยูนนาน หลังหลบหนีมาพำนักในไทย เตรียมผลักดันส่งกลับดำเนินคดี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สนธิกำลังปิดเกมควบคุมตัว MR.SONG สัญชาติจีน อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาคดีอาชญากรรมข้ามชาติ หลังกระทำความผิดทุจริตและสมยอมในการเสนอราคาจัดซื้อจัดจ้างโรงพยาบาลรัฐในสาธารณรัฐประชาชนจีน สร้างความเสียหายรวมกว่า 60 ล้านหยวน หรือประมาณ 260 ล้านบาท

ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ระหว่างทางการไทยและจีน ผ่านศูนย์ความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงแบบบูรณาการแม่น้ำโขง–ล้านช้าง (LMLECC) ภายใต้นโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่เปิดช่องให้ประเทศไทยเป็นที่พักพิงของผู้กระทำผิดข้ามชาติ

จากการสืบสวนพบว่า คดีนี้มีต้นทางจากการตรวจสอบการทุจริตในระบบสาธารณสุขของมณฑลยูนนาน โดยคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยและกำกับดูแลเมืองจาวทง พบว่า MR.SONG มีพฤติการณ์ให้สินบนแก่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง เพื่อแทรกแซงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งการจำหน่ายเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการรับเหมาก่อสร้างโครงการของโรงพยาบาล

ต่อมาทางการจีนได้ออกคำสั่งกักขังทางอาญา เพิกถอนหนังสือเดินทาง และประสานข้อมูลมายังทางการไทย หลังตรวจสอบพบว่า MR.SONG หลบหนีเข้ามาพำนักในประเทศไทย

ภายหลังการสืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ได้ขออำนาจศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งในซอยกรุงเทพกรีฑา 7 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ก่อนควบคุมตัว MR.SONG ได้โดยละม่อม พร้อมแจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และดำเนินการควบคุมตัวไว้เพื่อรอผลักดันส่งกลับไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป

การจับกุมครั้งนี้สะท้อนความสำเร็จของความร่วมมือด้านการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และเป็นสัญญาณชัดเจนว่าประเทศไทยจะไม่เป็นพื้นที่หลบซ่อนของผู้กระทำความผิด

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเตือนประชาชนว่า การเสนอหรือรับเงิน ผลประโยชน์ หรือการ “ล็อกสเปก–ตกลงผลล่วงหน้า–แบ่งผลประโยชน์” ในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ ถือเป็นความผิดร้ายแรง หากพบเบาะแสการทุจริตหรืออาชญากรรมข้ามชาติ สามารถแจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกควบคุมตัวยังคงถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด