ปะทะเดือดชายแดน! ทัพภาค 2 ยิงตอบโต้–ยึดหลายพื้นที่ หลังถูกกัมพูชาถล่มหนัก 4 จังหวัดอีสานอพยพกว่า 2.2 แสนคน

81

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 เผยสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังเพื่อนบ้านเปิดฉากยิงใส่ทหารไทยและระดมปืนใหญ่–BM-21 ถล่มพื้นที่อีสาน 4 จังหวัด ทำให้ประชาชนเสียหายหนัก ด้านกองทัพไทยโต้ตอบตามกฎการใช้กำลัง ยึดบางพื้นที่คืนได้ พร้อมเร่งอพยพประชาชนสู่ศูนย์พักพิงกว่า 751 แห่งรวมกว่า 2.2 แสนคน

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 17.00 น. โดยระบุว่าเหตุปะทะเริ่มปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม หลังฝ่ายกัมพูชายิงใส่ชุดลาดตระเวนของทหารไทยในพื้นที่ภูผาเหล็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนจะยกระดับความรุนแรงด้วยการยิงปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) เข้าใส่พื้นที่ไทยต่อเนื่อง ครอบคลุมจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน พื้นที่เกษตร และสถานพยาบาลหลายแห่ง

กองทัพภาคที่ 2 ได้เร่งอพยพประชาชนเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยตามศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ พร้อมตอบโต้กัมพูชาตามกฎการใช้กำลังอย่างได้สัดส่วน โดยยิงสกัดและทำลายภัยคุกคามในแนวรบตลอดชายแดน 4 จังหวัด รวม 13 พื้นที่รบหลัก อาทิ ช่องบก–ช่องอานม้า (อุบลราชธานี), ซำแต–ผามออีแดง–ช่องสะงำ (ศรีสะเกษ), ช่องจอม–ช่องเปรอ–ตาควาย (สุรินทร์) และช่องสายตะกู (บุรีรัมย์)

ผลการปฏิบัติสำคัญของวันที่ 11 ธ.ค. 68 ได้แก่​ เข้ายึดพื้นที่บางส่วนในช่องอานม้า,ทำลายฐานปฏิบัติการข้าศึกบริเวณซำแต, ยึดพื้นที่คืนถึงเส้นปฏิบัติการในช่องระยี–ช่องเปรอ แม้ยังมีการต่อต้าน, ยึดพื้นที่สำคัญ 2 จุดในพื้นที่คนา แต่ยังถูกยิงโต้ตอบ
และที่ตาควาย ยิงทำลายฐานทหารรอบปราสาทและเนิน 350 แต่ยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ เนื่องจากการต่อต้านหนักจากอาวุธยิงสนับสนุน โดรน และกับระเบิดของฝ่ายกัมพูชา

ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ฝ่ายไทยประเมินว่า กำลังทหารกัมพูชาเสียชีวิต 102 นาย, รถถัง T-55 ถูกทำลาย 6 คัน, BM-21 อีก 1 คัน และระบบโดรนถูกทำลายรวม 64 ลำ พร้อมระบบแอนตี้โดรน 1 ระบบในพื้นที่ห้วยตามาเรีย

ด้านการช่วยเหลือประชาชน พบว่ามีการเปิดศูนย์พักพิง 751 แห่ง ครอบคลุม 31 อำเภอใน 4 จังหวัดชายแดน และอีก 4 อำเภอในพื้นที่ตอนใน รวมผู้อพยพ 222,548 คน โดยจังหวัดศรีสะเกษได้รับผลกระทบสูงสุด 106,691 คน ขณะที่กลุ่มเปราะบางต้องอพยพแล้ว 22,999 คน

กองทัพภาคที่ 2 ย้ำว่าพร้อมดำเนินมาตรการทุกด้านเพื่อรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยของประชาชน และอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลัง