รัฐบาลเร่งเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติดหลังสถานการณ์รุนแรงต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีสั่ง “ปิดประตูชายแดน” ตั้ง หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) โดยมอบหมายให้ กองทัพภาคที่ 2 ควบคุมพื้นที่เข้ม 7 จังหวัด 25 อำเภอแนวชายแดน
นบ.ยส.24 ทำหน้าที่วางแผน อำนวยการ และประสานกำลังทุกภาคส่วน ดำเนินยุทธการ 5 ด้าน ทั้งสกัดกั้นลักลอบขนยาและสารตั้งต้นสู่สามเหลี่ยมทองคำ ปราบโครงข่ายการค้า–ตัดเส้นทางเงินสกปรก ลุยต้านลำเลียงผ่านระบบโลจิสติกส์ และเสริมชุมชนชายแดนให้เป็น “หมู่บ้านเข้มแข็งต้านยาเสพติด” พร้อมจับมือประเทศเพื่อนบ้านล่าตัวผู้ค้ายา–ผู้ต้องหาหลบหนี
การปฏิบัติเป็นไปตาม 6 มาตรการหลักของ ป.ป.ส. ได้แก่ การสกัดกั้น โดยกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี–สุรนารี การปราบปราม โดยตำรวจภูธรภาค 3, 4 และ บช.ปส.2 การป้องกัน โดยจังหวัดในฐานะศูนย์อำนวยการ ป.ป.ส. จังหวัด การบำบัดรักษา โดยสาธารณสุขจังหวัด การบูรณาการทุกหน่วยราชการ การประสานประเทศเพื่อนบ้าน ผ่าน GBC และช่องทางทหารชายแดน
ผลปฏิบัติงานเพียง 2 เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 224 ราย ยึดของกลางมโหฬาร ยาบ้า 23.93 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,216 กก., เฮโรอีน 22 กก. และยาเสพติดอื่นอีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 875,715,401 บาท
วันนี้ (9ธ.ค.) รัฐบาล และทุกหน่วยเกี่ยวข้องเปิดประชุมแถลงคำสั่งและแนวทางปฏิบัติงานปีงบประมาณ 2569 เพื่อเดินเครื่องยุทธการชายแดนเข้มข้นต่อเนื่อง วางกรอบปฏิบัติ–บทบาทอำนาจหน้าที่ชัดเจน พร้อมย้ำความร่วมมือบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อสกัดยาเสพติดไม่ให้ทะลักเข้าประเทศ
