สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกระดับมาตรการความมั่นคง ขานรับนโยบายเปิดประเทศ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กำชับมาตรการเชิงรุก ‘X-Ray พื้นที่ท่องเที่ยว’ มุ่งเน้นการคัดกรองบุคคลและปราบปรามอาชญากรรมต่อชาวต่างชาติอย่างเด็ดขาด เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ ‘Thailand Safe Zone’ และสร้างรากฐานความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งให้กับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ขานรับนโยบายสั่งการให้ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.เดโช โสสุวรรณากุล รอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ รอง ผบก.ตม.3 กำชับให้ทุกหน่วยในสังกัด กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 กวนขันพื้นที่รับผิดชอบ ทำงานอาชญากรรมเชิงรุก

ปฏิบัติการประเดิมตำแหน่งครั้งนี้ เริ่มต้นทันทีเมื่อ ตม.จว.นครปฐม ได้รับการประสานงานด่วนจาก สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ถึงการหลบหนีของ นาย จอ (นามสมมติ) ผู้ต้องหาคนไทยที่เป็นจิ๊กซอว์สำคัญในขบวนการหลอกลวงเทรดหุ้นคนต่างชาติ โดยทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า งานนี้ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.ตม.จว.นครปฐม นายตำรวจไฟแรงที่เพิ่งย้ายมาจากกองกำกับการสืบสวน บก.ตม.3 หมาด ๆ ได้งัดวิชา “นักสืบ” ออกมาใช้ทันที

โดยสั่งการชุดสืบสวน ตม.จว.นครปฐม ปูพรมหาข่าวเชิงลึก จนทราบพิกัดว่าคนร้ายหนีมากบดานเงียบเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ใน ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จึงสั่งการชุดสืบสวนได้วางกำลังซุ่มโป่งเฝ้ารอจังหวะ จนกระทั่งพบเป้าหมายปรากฏตัว และแสดงตัวเข้าจับกุมได้คาหนังคาเขาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหาร้ายแรงทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ถือเป็นการปิดจ๊อบแรกรับตำแหน่งใหม่ได้อย่างสวยงามภายหลังการจับกุมชุดสืบสวนได้ใช้เทคนิคการซักถาม จนกระทั่ง นาย จอ ยอมเปิดปากเล่าถึงที่มาของบัญชีม้า โดยอ้างว่าตนตกเป็นเหยื่อของ ‘กลโกงซ้อนกลโกง’ จากเว็บเทรดหุ้นชื่อ ‘บีซ่า’ (Biza) ที่พบผ่าน Facebook โดย นาย จอ อ้างว่าเริ่มต้นจากการลงทุนเพียง 200 บาท และได้รับโปรโมชั่นเพิ่มเป็น 1,000 บาท เมื่อเล่นได้กำไรตามหน้าเว็บไซต์สูงถึง 50,000 บาท จึงทำเรื่องถอนเงิน แต่กลับถูกแอดมินบ่ายเบี่ยงว่าเลขบัญชีผิดพลาด ต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่มี ‘เจ้าหน้าที่ 2 ราย ขับรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน’ บุกมาถึงหน้าบ้าน เพื่อทำการสแกนใบหน้าถึง 6-7 ครั้ง โดยอ้างว่าเงินจะเข้าบัญชีในภายหลัง แต่สุดท้ายกลับติดต่อไม่ได้และไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียวอย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาจะอ้างว่าเป็นผู้เสียหาย แต่จากเส้นทางการเงินพบยอดเงินโอนเข้าบัญชีนาย จอ ราว 70,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นที่มีผู้เสียหายรวมกว่า 700,000 บาท และมีผู้ต้องหาในขบวนการถึง 8 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การทั้งหมด โดยเตรียมขยายผลส่งไม้ต่อให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของคดี เพื่อกระชากหน้ากากขบวนการนี้ต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.3 แม่ทัพใหญ่ ได้กล่าวชื่นชมการทำงานที่รวดเร็วและเฉียบขาด พร้อมเปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจว่า การจับกุมครั้งนี้คือเครื่องพิสูจน์ศักยภาพของตำรวจ ตม. ยุคใหม่ ที่ต้องถือ “หมวกสองใบ” ใบแรกคือเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองผู้ให้บริการ แต่อีกใบคือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ตาม ป.วิ อาญา ที่ต้องมีความเข้มข้นในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยต่อสังคม ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตามเบื้องต้น ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.นครปฐม ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ปิดฉากบัญชีม้า สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่นครปฐมได้อุ่นใจ

